บทความ

[Arknights] รีวิว Aroma

รูปภาพ
  Aroma ตัวละคร Caster ระดับ 5 ดาวสาย Blast Caster ที่มาพร้อมสกิลเน้นลอย คอมโบกับตัวละครที่ทำลอยได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจเป็น AoE เส้นตรงยาว Talent - ศัตรูที่โดนโจมตีครั้งแรกจะโดนด้วย ATK คิดเป็น 110% และลอยขึ้นในอากาศ 2.5 วินาที สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานทำให้โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 180% เป็นเวทย์, ทำดาเมจเพิ่มอีก 70% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูที่บินอยู่ (รวมถึงที่ลอยอยู่ด้วย); เก็บได้ 2 ชาร์จ; ใช้ SP9 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +80%, ทำดาเมจ 80% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูที่ลอยอยู่แล้วตกลงบนพื้น; SP ตั้งต้น 21; ใช้ SP 48; ระยะเวลาสกิล 23 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ระยะโจมตีเป็นเส้นตรงเส้นเดียว ต้องหาจุดวางเล่น Talent มีผลแค่การโจมตีครั้งแรกที่ศัตรูโดนเท่านั้น สกิล 2 ทำดาเมจเพิ่มเติมเฉพาะศัตรูที่ลอยอยู่เท่านั้น (อาจต้องกะจังหวะกดสกิลให้โดนตอนที่มีตัวลอยอยู่) สรุป   สำหรับผู้เล่นทั่วไปแนะนำให้ข้าม แต่หากอยากลองทำทีมลอย อาจเป็นอีกตัวที่จับมาร่วมทีมได้

[NIKKE] รีวิว เกรฟ (Grave)

รูปภาพ
  เกรฟ (Grave) เป็นตัวละครสาย Supporter มีความสามารถบัฟโจมตีและยิงทะลุแบบเบิ้ม ๆ อีกทั้งเร่งความเร็วในการเจ็นเกจเบิร์สได้ด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนไรเฟิลจู่โจม โจมตีระยะกลางได้ดี ธาตุไฟ โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 17.91%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 60 นัด; รีโหลด 2 วินาที สกิล 1 - มี 3 เอฟเฟ็กต์ (อ้างอิงจากเลเวล 10) 1. เปิดใช้งานเมื่อสิ้นสุดสถานะ "คาดการณ์" (ก็คือเมื่อจบเบิร์สสกิล) ส่งผลกับตนเอง นำกระสุนออก 100% (บังคับให้ตัวเองรีโหลด) ระบายความร้อน: ความเร็วรีโหลดลดลง 50% (สถานะระบายความร้อนจะสิ้นสุดลงเมื่อเกรฟทำการโจมตีธรรมดาระหว่างรีโหลด หรือ รีโหลดจนกระสุนเต็มแม็กกาซีน หรือ ใช้เบิร์สสกิล) 2. เปิดใช้งานเมื่ออยู่ในสถานะ "ระบายความร้อน" ส่งผลกับตนเอง เด้งเลือด 2% ของ Max HP ขั้นสุดท้ายอย่างต่อเนื่อง 3. เปิดใช้งานเมื่ออยู่ในสถานะ "ระบายความร้อน" ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด เจ็นเกจเบิร์สสกิลไวขึ้น 38.96% อย่างต่อเนื่อง ดาเมจยิงทะลุเพิ่มขึ้น 48.4% อย่างต่อเนื่อง สกิล 2 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ (อ้างอิงจากเลเวล 10) 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีธรรมดาเข้่าเป้า 15 ครั้ง ส่งผลกับต

[NIKKE] รีวิว ซิลเดอเรลล่า (Cinderella)

รูปภาพ
  ซิลเดอเรลล่า (Cinderella) เป็นตัวละครสาย Defender มีความสามารถในการชาร์จยิงค้างและทำ nuke damage ได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เครื่องยิงจรวด โจมตีได้ทุกระยะ ธาตุไฟฟ้า โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 32.11%; เวลาชาร์จ 1 วินาที; ดาเมจชาร์จเต็ม 200%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 24 นัด; รีโหลด 2 วินาที สกิล 1 - มี 3 เอฟเฟ็กต์ (อ้างอิงที่เลเวล 10) 1. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สขั้น 3 ส่งผลกับตนเอง ATK เพิ่มขึ้น 2.71% ของ Max HP ขั้นสุดท้าย เป็นเวลา 10 วินาที 2. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีชาร์จเต็ม ส่งผลกับตนเอง ความเร็วชาร์จเพิ่มขึ้น 100% (ส่งผลให้กดยิงค้างได้โดยไม่ต้องรอชาร์จครั้งถัดไป) บัฟสิ้นสุดลงเมื่อรีโหลดกระสุนจนเต็มแม็กกาซีน 3. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีโดนเป้าหมายด้วยชาร์จเต็ม ส่งผลกับเป้าหมาย ทำดาเมจเพิ่มเติม 136.6% ของ ATK ขั้นสุดท้าย สกิล 2 - มี 3 เอฟเฟ็กต์ (อ้างอิงที่เลเวล 10) 1. เปิดใช้งานเมื่อเริ่มการต่อสู้ ส่งผลกับตนเอง สร้างเหยื่อล่อ (decoy) ที่มี HP เท่ากับ 96% ของ Max HP ขั้นสุดท้ายอย่างต่อเนื่อง 2. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สขั้น 3 ส่งผลกับตนเอง สร้างเหยื่อล่อ (decoy) ที่มี HP เท่ากับ 96% ของ

[Arknights] รีวิว GreyThroat

รูปภาพ
  GreyThroat ตัวละคร Sniper ระดับ 5 ดาวสาย Marksman สามารถเบิร์สดาเมจในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีศัตรูบินก่อนเสมอ Talent - ASPD +6, มีโอกาส 15% ที่จะโจมตีติดคริแรงขึ้นเป็น 150% สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานทำให้โจมตีครั้งถัดไปยิงออกมา 2 ลูก, แต่ละลูกทำดาเมจ 125% เป็นกายภาพ; เก็บชาร์จได้ 2 ชาร์จ; ใช้ SP 5 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +20%, โจมตี 3 ครั้งพร้อมกัน; SP ตั้งต้น 12; ใช้ SP 34; ระยะเวลา 17 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 2 หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตีเท่านั้น อีกทั้งระยะเวลาสกิลและ SP ที่ใช้ห่างกันครึ่งนึง ทำให้การเก็บ SP ใช้เวลานานพอสมควร สรุป   เป็นตัว Sniper ทั่วไปที่ทำดาเมจได้ดีระดับนึง ไม่มีความหวือหวา เหมาะกับผู้เล่นที่ขาดตัว Sniper จู่โจมตัวบิน สามารถปั้นไปเสริมทีมได้

[Arknights] รีวิว Ascalon

รูปภาพ
  Ascalon ตัวละคร Specialist ระดับ 6 ดาวสาย Ambusher มีความสามารถในการ slow และทำดาเมจเป็น DoT จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจใส่ศัตรูทุกตัวในระยะโจมตี, โอกาสหลบหลีก 50% ทั้งเวทย์และกายภาพ, โอกาสตกเป็นเป้าลดลง Talent 1 - การโจมตีทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง 18% และโดนดาเมจ 10% ของ ATK เป็นเวทย์ทุก ๆ วินาที เป็นเวลา 25 วินาที, ทับซ้อนได้ 3 ครั้ง Talent 2 - ASPD +8; เพิ่ม ASPD อีก +6 หากมีพื้นยืนบนในระยะ 4 ช่องรอบตัว สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานทำให้โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจเป็น 170% และโจมตีเบิ้ล 2 ฮิต; เก็บได้ 3 ชาร์จ; SP ตั้งต้น 4; ใช้ SP 8 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +90%, ศัตรูที่ยืนบนในระยะโจมตีจะเคลื่อนที่ช้าลง -40%, เพิ่ม stack ของ Talent 1 ขั้นใส่ศัตรูใกล้เคียงกับตัวที่ตาย; SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 24; ระยะเวลา 35 วินาที สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้เพิ่มระยะโจมตี(ตามภาพด้านล่าง), ATK +20%, โจมตีเร็วขึ้นเล็กน้อย (ดีเลย์แต่ละโจมตีลดลง), ทำให้ศัตรูยืนพื้นในระยะโจมตีความแม่นยำล

[Arknights] รีวิว Specter the Unchained

รูปภาพ
  Specter the Unchained ตัวละคร Specialist ระดับ 6 ดาวสาย Dollkeeper ตายแล้วสลับร่างรอง ร่างหลักได้ โดยร่างรองยังดีบัฟและทำดาเมจไปได้ในตัวด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เมื่อตายจะสลับตัวเป็นร่างรองลงสนามมาแทน ซึ่งจะมี block 0 เป็นเวลา 20 วินาทีแล้วสลับกลับร่างหลัก Talent 1 - ร่างรองจะทำให้ศัตรูในระยะ 8 ช่องรอบตัวเคลื่อนที่ช้าลง 40% และทำดาเมจใส่ศัตรู 40% เป็นเวทย์ต่อวินาที Talent 2 - หากอยู่ในทีมจะทำให้ตัวละครประเภท Abyssal Hunter +20% Max HP สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะแลกเลือดกับพันธมิตรที่มีเลือดต่ำสุดในระยะ 8 ช่องรอบตัว (แลกเป็น %), Specter ได้รับ ATK +120%; SP ตั้งต้น 15; ใช้ SP 40; ระยะเวลา 25 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +100%, ASPD +34; ระหว่างที่สกิลเปิดใช้งานอยู่ เลือดของ Specter จะไม่ลดต่ำกว่า 1; เมื่่อสกิลจบลงจะตายทันที (สลับร่างรองลงมา); SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 35; ระยะเวลาสกิล 17 วินาที สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ จะโจมตีช้าลง, โจมตีศัตรูทุกตัวที่ติด block อยู

[NIKKE] รีวิว D: ยอดรักนักฆ่า (D: Killer Wife)

รูปภาพ
  D: ยอดรักนักฆ่า (D: Killer Wife) เป็นตัวละครสาย Supporter มีความสามารถในการบัฟดาเมจยิงทะลุให้กับทีมสไนเปอร์ และลด CD เบิร์สสกิลได้สูงสุดถึง 7 วินาที จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนไรเฟิลซุ่มยิง ยิงระยะไกลได้ดี ธาตุไฟ โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 69.04%; เวลาชาร์จ 1 วินาที; ดาเมจชาร์จเต็ม 250%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 6 นัด; รีโหลด 2 วินาที สกิล 1 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ อ้างอิงที่เลเวล 10 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีด้วยชาร์จเต็ม 3 ครั้ง ส่งผลกับตนเอง ยิงทะลุ 1 นัด 2. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สเต็ม ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมดที่ใช้ไรเฟิลซุ่มยิง ดาเมจยิงทะลุเพิ่มขึ้น 13.55% เป็นเวลา 10 วินาที สกิล 2 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ อ้างอิงที่เลเวล 10 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีดเ้วยชาร์จเต็ม 8 ครั้ง ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด CD เบิร์สสกิลลดลง 7 วินาที 2. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีด้วยชาร์จเต็ม 5 ครั้ง ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด ดาเมจโจมตีเพิ่มขึ้น 5.06% เป็นเวลา 10 วินาที เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 1; CD 20 วินาที; มี 2 เอฟเฟ็กต์ อ้างอิงที่เลเวล 10 1. ส่งผลกับศัตรูที่ใกล้เป้าเล็งที่สุด ทำดาเมจ 269.28% จากโจมตีขั้นสุดท้าย คิดเป็นดาเมจเพ

[NIKKE] รีวิว ซไว (Zwei)

รูปภาพ
  ซไว (Zwei) เป็นตัวละครสาย Supporter มีความสามารถในการบัฟดาเมจยิงทะลุ เหมาะกับการจัดทีมยิงทะลุ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนลูกซอง ยิงระยะใกล้ ธาตุไฟฟ้า โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 100.75%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 9 นัด; รีโหลด 1.5 วินาที รีโหลดทีเดียวได้เต็มแม็กกาซีน สกิล 1 - เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สเต็ม ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด 1. ดาเมจยิงทะลุเพิ่มขึ้นสูงสุด 20.13% จำนวน 1 นัด 2. ดาเมจยิงทะลุเพิ่มขึ้นสูงุสด 10.06% เป็นเวลา 10 วินาที สกิล 2 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานหลังจากโจมตีปกติเข้าเป้า 5 ครั้ง ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด เด้งเลือดให้กำบังสูงสุด 7.52% 2. เปิดใช้งานเมื่อเข้าเบิร์สเต็ม ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด คริเรทเพิ่มสูงสุด 18.36% เป็นเวลา 5 วินาที เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 1; CD 20 วินาที; มี 2 เอฟเฟ็กต์ อิงจากเลเวล 10 1. ส่งผลกับตนเอง เปลี่ยนาอาวุธ เวลาชาร์จ 1.5 วินาที ดาเมจ: 50.69% ของโจมตีขั้นสุดท้าย ดาเมจชาร์จเต็ม 300% ความจะกระสุนสูงสุด 1 นัด ยิงทะลุ 2. ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด ดาเมจยิงทะลุเพิ่มขึ้น 15.48% เป็นเวลา 10 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ใช้งานเฉพาะทีมยิงทะลุ

[Arknights] รีวิว Lunacub

รูปภาพ
  Lunacub  ตัวละคร Sniper ระดับ 5 ดาวสาย Deadeye มีความสามารถในการล่องหนระหว่างไม่ได้เปิดใช้งานสกิลเป็นหลัก จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีศัตรูที่ DEF ต่ำสุดก่อน Talent - เมื่อไม่ได้เปิดใช้สกิลจะล่องหนตลอด; เมื่อเปิดใช้งานสกิลจะโจมตีเร็วขึ้นเล็กน้อย (ลดดีเลย์การโจมตีลง) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +60%; SP ตั้งต้น 8; ใช้ SP 24; ระยะเวลา 18 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ASPD +110 และล่องหนเป็นเวลา 5 วินาที; หากจัดการศัตรูได้ 1 ตัวในระหว่างใช้งานสกิล จะได้ล่องหนเพิ่มเป็น 7 วินาที (หากฆ่าได้เรื่อย ๆ ก็จะวนกลับไปที่ 7 วินาทีเรื่อย ๆ); SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 54; ระยะเวลา 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร หาได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 2 ใช้ SP ค่อนข้างสูง ใช้เวลาเด้ง SP นานกว่าจะใช้ได้อีกครั้ง สรุป   ที่น่าสนใจคือสามารถล่องหนที่อาจนำไปวางในตำแหน่งที่ฮีลไม่ถึงแต่ต้องการตัวยืนเคลียร์ศัตรูได้บ้าง แต่ก็เป็นสถานการณ์เฉพาะทาง แนะนำให้พิจารณาจากทีมที่มี

[Arknights] รีวิว Morgan

รูปภาพ
  Morgan ตัวละคร Guard ระดับ 5 ดาวสาย Dreadnought เป็นตัวแจกจาก Episode 12 [All Quiet Under The Thunder] ที่มีความสามารถในการทำดาเมจจากการลดเลือดตัวเอง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เป็นตัวแจกจาก Episode 12 [All Quiet Under The Thunder] ปั้น PO ง่าย Talent 1 - ยิ่งเลือดเหลือน้อยยิ่งบัฟ ATK เยอะ โดยสูงสุด +50% (52% ที่ PO5) ซึ่ง HP ต้องเหลือต่ำกว่าหรือเท่ากับ 30%  Talent 2 - ไม่กิน deployment slot หากใช้งานใน Episode 12 สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ทำดาเมจ 160% เป็นกายภาพ และลดเลือดตัวเองลง 12% ทุกครั้งที่โจมตี; SP ตั้งต้น 6; ใช้ SP 24; ระยะเวลา 12 วินาที สกิล 2 - เป็นสกิลติดตัว; ที่เลเวล 7 เมื่อลงสนามจะเสียเลือดทันที 70% แต่ได้รับบาเรียเท่ากับ 130% ของ Max HP (บาเรียจะค่อย ๆ ลดลงจนหมดใน 6 วินาที); การโจมตีทำดาเมจ 160% เป็นกายภาพ; ระยะเวลา 18 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร Talent 2 มีผลเฉพาะใน Episode 12 เท่านั้น ทุกสกิลเล่นกับการลดเลือดตัวเอง ทำให้ใช้งานได้ยากระดับนึง สกิล 2 บาเรียหายไปไวมาก ๆ สรุป   อัพมาเก็บเพชรแดงก็พอ