Kotenarok

  คราวน์ (Crown) ตัวละครสาย Defender สังกัดพิลกริม เป็นเบิร์ส 2 เมต้าตัวใหม่แน่นอน กับบัฟโจมตีเบิ้ม ๆ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนกล ยิงระยะกลางได้ดี ธาตุเหล็ก โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 5.57%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 300 นัด; รีโหลด 2.5 วินาที ตรวจจจับศัตรูที่ไม่สามารถกำหนดเป้าหมายอัตโนมัติได้ (ในบางด่านจะมีมอนที่เวลาอิอโต้แล้วนิกเกะจะไม่ยิงเอง เราต้องบังคับมือ ความสามารถนี้ทำให้นิกเกะยิงเองได้) สกิล 1 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อเริ่มเบิร์สเต็ม ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมดที่ร่ายเบิร์สสกิลไปก่อนหน้านี้ เพิ่ม ATK สูงสุด 64.51% ของ ATK ผู้ร่าย เป็นเวลา 15 วินาที เพิ่มความเร็วรีโหลดสูงสุด 44.35% เป็นเวลา 15 วินาที 2. ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมดที่ไม่ได้ร่ายเบิร์สสกิล DEF เพิ่มขึ้นสูงสุด 37.44% ของ DEF ผู้ร่าย เป็นเวลา 15 วินาที เพิ่มความเร็วรีโหลดสูงสุด 44.35% เป็นเวลา 15 วินาที สกิล 2 - มี 3 เอฟเฟ็กต์ อิงจากสกิลเลเวล 10 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติ 43 ครั้ง ส่งผลกับตนเอง สมรรภาพ HP เพิ่มขึ้น 4.06% อย่างต่อเนื่อง ทับซ้อนได้สูงสุด 20 ครั้ง 2. เปิดใช้งานเมื่อเอ็ฟเฟต์ 1 ทับซ้อนครบ 20 ครั้ง ส่งผลก

  Almond ตัวละคร Specialist ระดับ 5 ดาวสาย Hoolmaster เป็นสายดึงที่สามารถตรึงขาศัตรูแล้วดึงอย่างต่อเนื่องได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ใช้สกิลดึงศัตรูเข้าหาตัวเอง สามารถวางได้ทั้งบนและล่าง Talent - เด้ง SP 8 ทันทีหลักใช้งานสกิลครั้งแรกในการต่อสู้ (ใช้ได้ครั้งเดียวต่อการต่อสู้) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 ทำให้การโจมตีครั้งถัดไปจะดึงศัตรูเข้าหาตัวเองด้วยแรงปานกลาง, ทำดาเมจ 140% เป็นกายภาพ; SP ตั้งต้น 3; ใช้ SP 5; เก็บชาร์จได้ 2 ครั้ง สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะฮุคไปหาศัตรู ทำให้ติด bind (ตรึงขาขยับไม่ได้) ทำดาเมจ 150% เป็นกายภาพ และดึงเข้าหาตัวเองด้วยแรงปานกลางทุก ๆ 1.5 วินาที ตลอดระยะเวลาสกิล; SP ตั้งต้น 11l; ใช้ SP 29; ระยะเวลาสกิล 4 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดหาจากาชาเท่านั้น Talent มีผลแค่ครั้งเดียวในการต่อสู้ สกิล 1 อัพขึ้นระดับ mastery ก็ไม่เพิ่มแรงดึง เพิ่มแต่ดาเมจ สกิล 2 ดึงได้เป้าหมายเดียว (ปกติสายนี้สกิล 2 จะดึงได้หลายเป้าหมายพร้อมกัน) สรุป   แนะนำให้ไปใช้ตัวละครอื่นดีกว่าถ้าต้องการตัวดึงตก ตัวละครน

  Heidi ตัวละคร Supporter ระดับ 5 ดาวสาย Bard สามารถเด้งเลือดและบัฟให้ฝ่ายเดียวกันที่อยู่ในระยะได้ เป็นตัวแจกในโหมดเนื้อเรื่อง EP 10 Shatterpoint จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เด้งเลือดให้กับพันธมิตรในระยะเท่ากับ 10% ของ ATK Talent 1 - เมื่อสวมใส่สกิล 1 อยู่ พันธมิตรในระยะได้รับ +5% ATK (+6% ที่ PO5); เมื่อสวมใส่สกิล 2 อยู่ พันธมิตรในระยะได้รับ +5% DEF (+6% ที่ PO5) Talent 2 - เมื่ออยู่ในโหมดเนื้อเรื่อง EP 10 Shatterpoint จะบัฟเด้ง SP ให้พันธมิตรในระยะเพิ่ม 0.5 / วินาที สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้ ; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะ ลดจำนวนบล็อค -3 , และจะได้รับบัฟ Inspiration (บัฟเพิ่ม base stat) ซึ่งเพิ่ม ATK เท่ากับ 90% ของ ATK ของ Heidi; SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 23; ระยะเวลาสกิล 10 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้ ; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้พันธมิตรในระยะบล็อค +1, และบัฟ Inspiation 50% DEF และ 20% Max HP; ผลของ Trait (ที่เด้งเลือด) เพิ่มขึ้นเป็น 23% แจกในโหมดเนื้อเรื่อง EP 10 Shatterpoint ทำให้ปั้น PO ง่าย จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ไม่สามารถโจมตีศัตรูได้ ผลบัฟ Inspiration จา

  Reed ตัวละคร Vanguard ระดับ 5 ดาวสาย Charger ที่ได้รับ DP เมื่อจัดการกับศัตรูได้ เป็น Vanguard ที่มีค่าป้องกันเวทย์ (RES) สูงกว่าตัวอื่น ๆ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ได้รับ 1 DP เมื่อจัดการศัตรูได้ คืน DP จำนวนเมื่อถอดออกจากสนาม Talent - RES +20 สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้: ที่เลเวล 7 ATK +34%, ASPD +35; SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 39; ระยะเวลาสกิล 35 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้: ที่เลเวล 7 ATK +60%, ทุกการโจมตีทำดาเมจเพิ่มเติมเป็นเวทย์ 25%, เด้ง DP +1 ทุกครั้งที่จัดการศัตรูได้; SP ตั้งต้น 16; ใช้ SP 38; ระยะเวลาสกิล 26 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร บล็อค 1 สรุป   ส่วนตัวไม่เคยหยิบ Vanguard สาย Charger ระดับ 5 ดาวมาใช้เลย ใช้ Vigna แล้วข้ามไป Bagpipe เลย เพราะงั้นแล้วแต่ผู้เล่นแล้วครับ ถ้าขาดตัวละครแบบนี้ก็ปั้นมาใช้ได้ เป็นที่เน้นการทำดาเมจที่สุดในบรรดาระดับ 5 ดาวละ

  เอมิเลีย (Emilia) ตัวละครสาย Attacker สังกัดแอบนอร์มอล ตัวละคร collab กับอนิเมะเรื่อง Re:Zero ใช้อาวุธเครื่องยิงจรวดที่รุนแรงและวงกว้าง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนยิงจรวด ยิงได้ทุกระยะ ธาตุน้ำ โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 61.3%; เวลาชาร์จ 1 วินาที; ดาเมจชาร์จเต็ม 250%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 6 นัด; รีโหลด 2 วินาที สกิล 1 - เปิดใช้งานเมื่อโจมตีด้วยชาร์จเต็ม ส่งผลกับตนเอง ความเร็วชาร์จเพิ่มขึ้นสูงสุด 13.01% เป็นจำนวน 1 นัด ชารฺจดาเมจเพิ่มขึ้น 2.01% ต่อจำนวนกระสุนสูงสุดขั้นสุดท้าย (เช่น บัฟไปมามีกระสุนสูงสุด 10 นัดก็เอา 10 x 2.01 จะได้เป็นดาเมจเพิ่มเติม) เป็นจำนวน 1 นัด สกิลนี้แนะนำให้อัพแค่ 4 ก็เพียงพอแล้ว สกิลสเกลต่ำมาก อัพเยอะแต่ได้เพิ่มมาไม่มาก สกิล 2 - มี 2 เอ็ฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีด้วยชาร์จเต็ม ส่งผลกับเป้าหมาย ทำดาเมจคงที่กับร่างหลักสูงสุด 58.99% ของดาเมจที่ทำได้ ก็คือถ้ายิงใส่ชิ้นส่วนบอสจะทำดาเมจเพิ่มเติมเข้าไปด้วยอีก 58.99% ของดาเมจที่ทำได้ ยิ่งยิงโดนหลายชิ้นส่วนก็คูณตามจำนวนชิ้นส่วนนั้น (เช่น ทำดาเมจได้ 1000 ต่อ 1 ชิ้นส่วน ถ้าชิ้นส่วนมี 4 ชิ้น ดาเมจที่ทำได้เพิ่มเติมคือ 10

 โคฮารุชุดว่ายน้ำ (Koharu Swimsuit) เป็นตัวละคร Striker สาย Dealer ยืนหลัง โจมตีฟ้า โจมตีหมู่เป็นรัศมีวงกลม เป็นตัวละครแจกในกิจกรรม "ตามล่าสมบัติลับ คาบนอกหลักสูตรทรีนิตี้" (The Trinity Extracurriculars: In Search of Hidden  Ruins) จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีฟ้า / เกราะเหลือง สกิล EX - ใช้ cost 3 ทำดาเมจ 439% - 834% เป็นรัศมีวงกลมขนาดกลาง โดนศัตรูทั้งหมดในวงกลม สกิลพื้นฐาน - เพิ่มโอกาสคริ 20.8% - 39.6% ทุก ๆ 30 วินาที เป็นเวลา 25 วินาที สกิลติดตัว - เพิ่มโอกาสคริ 14% - 26.6% สกิลติดตัว+ - เพิ่มโอกาสคริ 344 - 653 สกิลรอง - ทำดาเมจเพิ่มเติมอีก 10.4% - 19.8% เมื่อโจมตีศัตรูขนาดกลาง หาได้ฟรีจากกิจกรรม "ตามล่าสมบัติลับ คาบนอกหลักสูตรทรีนิตี้" (The Trinity Extracurriculars: In Search of Hidden  Ruins) จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ไม่มีพื้นที่ ๆ ถนัดเลย หากพลาดกิจกรรมไปแล้วต้องรอรีรัน โอกาสคริเยอะมาก แต่ไม่มีบัฟคริดาเมจ สรุป   แนะนำให้ปั้นเลยสำหรับคนที่ขาดตัวละครตีหมู่สีฟ้า ใช้งานได้ดีและได้ใช้แน่นอน

  Bena ตัวละคร Guard ระดับ 5 ดาวสาย Doolkeeper ที่เมื่อตายจะสลับเป็นร่างรองมายืนแทนจนครบ 20 วินาทีจึงกลับร่างหลัก เป็นตัวละครที่รับได้ในกิจกรรม Preluding Lights จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เมื่อตายจะสลับเป็นร่างรองซึ่งมีบล็อค 0 และจะกลับร่างหลักเมื่อเวลาผ่านไป 20 วินาที (แต่หากตายตอนอยู่ร่างรองก็จะตายจริง ต้องรอ redeploy) Talent - ร่างรองทำดาเมจเวทย์ ระยะโจมตี 8 ช่องรอบตัว และลดดาเมจที่ได้รับลง 40% (เป็น 43% ที่ PO5) สามารถใช้ร่างรองเป็น tank ได้ แต่จังหวะที่สลับตัวศัตรูจะหันไปโจมตีตัวละครอื่น สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ Max HP ลดลง -50%, ATK +80% และไม่สน DEF ของศัตรู 30%; SP ตั้งต้น 20; ใช้ SP 39; ระยะเวลาสกิล 20 วินาที ใช้ได้ดีกับศัตรูที่มีค่า DEF สูง สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +60%, ASPD +50, เสียเลือด 4% ทุกครั้งที่โจมตีศัตรู; SP ตั้งต้น 18; ใช้ SP 25; ระยะเวลาสกิล 22 วินาที รับได้ในกิจกรรม Preluding Lights ปั้น PO ง่าย จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 1 ลด Max HP -50% สกิล 2 ลดเลือดทุกครั้งที่โจมตี ร่างรองบล

  Dagda ตัวละคร Guard ระดับ 5 ดาวสาย Fighter เป็นตัวละครในแก๊ง Glasgow และเป็นตัวลแจกจากเนื้อเรื่อง Episode 11 Return to Mist จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent 1 - มีโอกาส 30% จะโจมตีติดคริทำดาเมจ 150%; ความสามารถนี้จะเพิ่มให้แรงขึ้น 5% ทุก ๆ ศัตรูที่ถูกกำจัดภายในระยะ 4 ช่องรอบตัวของตัวละครแก๊ง Glasgow (ที่เห็นหลัก ๆ จะมี Siege , Indra , Morgan) ทับซ้อนได้สูงสุด 240% Talent 2 - มีผลเฉพาะในเนื้อเรื่อง EP 11 เท่านั้น; HP +20%, ทุกการโจมตีจะเด้งเลือดเท่ากับ 20% ของดาเมจที่ทำได้ สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อถูกโจมตี; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อถูกใช้งานจะทำให้ครั้งต่อไปที่ถูกโจมตี กายภาพ โดนเบาลง 50%, และทำให้โจมตีครั้งถัดไป(ของตัวเอง)แรงขึ้นเป็น 180%; ใช้ SP 4 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +28%, โจมตีเบิ้ล 2 ฮิต, โอกาสติดคริจาก Talent 1 เพิ่มเป็น 50%; SP ตั้งต้น 15; ใช้ SP 34; ระยะเวลาสกิล 15 วินาที เป็นตัวแจกฟรีจากเนื้อเรื่อง EP 11 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร บล็อค 1, ตัวบาง สกิล 1 ลดดาเมจจากกายภาพเท่านั้น Talent 1 จะได้ประสิทธิภาพสูงสุดต้องใช้ก

  Totter ตัวละคร Sniper ระดับ 4 ดาวสาย Besieger มีความสามารถในการโจมตีใส่ศัตรูที่ล่องหนอยู่ได้และตีแรงขึ้นด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีศัตรูที่มีน้ำหนักมากสุดก่อนเสมอ Talent - โจมตีศัตรูที่ล่องหนอยู่ได้, ถ้ามีศัตรูที่ล่องหนอยู่ในระยะโจมตีจะได้บัฟ ATK +17% (+20% ที่ PO5) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อสกิลถูกใช้จะทำให้โจมตีครั้งถัดไปโจมตีใส่ศัตรูเพิ่มอีก 1 เป้าหมาย และทำดาเมจ 190% เป็นกายภาพ; ใช้ SP 3 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ASPD +35, ทุกการโจมตีจะโจมตีใส่ศัตรูเพิ่มอีก 2 เป้าหมาย, ถ้าในระยะมีศัตรูเพียงตัวเดียว จะทำดาเมจเป็น 210% เป็นกายภาพ; SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 45; ระยะเวลาสกิล 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดหาได้จากกาชาเท่านั้น เมื่อโจมตีศัตรูที่มีน้ำหนักมากสุดก่อนเสมอ อาจทำให้เมินศัตรูที่ต้องโฟกัสก่อนได้ Talent มีผลกับตัวเองเท่านั้น เป็นตัวเฉพาะทางกับศัตรูล่องหน นอกเหนือจากนั้นก็ไม่น่าหยิบมาใช้ เปิดหาได้จากกาชาเท่านั้น สรุป   เป็นตัวละครที่มีความสามารถน่าสนใจในการจัดการกับศัตรูที่ล่อง

  Vermeil ตัวละคร Sniper ระดับ 4 ดาวสาย Marksman มีสกิลที่สามารถยิงได้ 2 เป้าหมายพร้อมกัน และสามารถเร่ง SP ตัวเองได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีศัตรูบินก่อนเสมอ Talent - เพิ่มอัตราเด้ง SP ให้ตัวเอง +0.3/วินาที สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +50%; SP ตั้งต้น 5; ใช้ SP 37; ระยะเวลาสกิล 25 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +30%, ยิงใส่ศัตรูเพิมอีก 1 เป้าหมาย; SP ตั้งต้น 6; ใช้ SP 24; ระยะเวลาสกิล 17 วินาที สามารถ recruit ได้ จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร HP ต่ำ โดยรวมด้อยกว่า Sniper ตัวอื่น ๆ สรุป   แนะนำให้ข้ามไปได้เลยสำหรับตัวละครนี้ หากขาดตัวละคร Sniper ใช้งานก็อัพแค่ E1 ก็พอแล้ว

  Horn ตัวละคร Defender ระดับ 6 ดาวสาย Fortress โจมตีระยะไกลเป็น AoE ได้ เป็นตัวละครที่มีโอกาสหยิบมาใช้บ่อยพอสมควรเวลาต้องการดาเมจระยะไกลจากพื้นล่าง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เมื่อไม่ได้บล็อคอยู่จะโจมตีระยะไกลใส่ศัตรูในระยะเป็น AoE กายภาพ Talent 1 - เมื่อ Horn อยู่ในสนามจะบัฟ ATK +20% (+23% ที่ PO3) ให้กับ Defender ทุกตัว Talent 2 - เมื่อ HP หมดลงจะรีเลือดกลับมาเต็ม แต่ Max HP ลดลง -50%, +18 ASPD, และ +18% DEF; ความสามารถนี้ใช้ได้ครั้งเดียวต่อ 1 การต่อสู้ สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่ M3 เมื่อใช้งานจะทำให้โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 280% เป็นกายภาพ, หากเป็นการโจมตีระยะไกล(ก็คือไม่มีศัตรูที่บล็อคอยู่) จะทำ AoE กว้างขึ้นและเป็นการาเปิดแมพทำให้มองเห็นศัตรูที่ล่องหนอยู่ในระยะระเบิดนั้นเป็นเวลา 8 วินาที; เก็บชาร์จได้ 2 ครั้ง; ใช้ SP 5 เป็นสกิลที่ใช้งานง่าย และนิยมที่สุด สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้: ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำให้แต่ละการโจมตีทำดาเมจ 190% เป็นกายภาพแบบกระจาย(splash damage) มีผลทั้งโจมตีแบบประชิดและระยะไกล; เป็นสกิลประเภทใช้กระสุน โดยมีให้ทั้งหมด 10 นัด

 ยูสึ (Yuzu) เป็นตัวละคร Striker สาย Dealer ยืนกลาง โจมตีเหลือง โจมตีหมู่เป็นรัศมีวงกลม ปัจจุบันเป็นตัวเดียวที่ต่อกรกับบีนาห์ในเมืองระดับ Insane ได้ดีที่สุด จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเหลือง / เกราะฟ้า ถนัดอย่างมากพื้นที่ในเมือง สกิล EX - ทำดาเมจ 312% - 594% เป็นรัศมีวงกลมใส่เป้าหมายที่เลือก (เป็นเล็งแบบล็อคเป้าหมายแล้วทำดาเมจใส่ศัตรูรอบ ๆ เป้าหมายนั้น) สกิลพื้นฐาน - ทุก ๆ 25 วินาทีทำดาเมจ 140% - 266% ใส่ศัตรูที่มีพลังโจมตีสูงสุด และทำดาเมจเป็น AoE รัศมีวงกลมรอบ ๆ เป้าหมายนั้นด้วย สกิลติดตัว - เพิ่มคริดาเมจ 14% - 26.6% สกิลรอง - เพิ่มคริดาเมจเมื่อใช้สกิล EX หรือสกิลพื้นฐาน 22.3% - 42.4% เป็นเวลา 6 วินาที ปัจจุบันเป็นตัวเดียวที่ต่อกรกับเรดบอสบีนาห์ในเมือง Insane ได้ดีที่สุด ด้วยความถนัดพื้นที่และเกราะที่ไม่แพ้ทางธาตุจนโดน 1 hit kill จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร คริดาเมจแบบเบิ้ม ๆ แต่ถ้าคริไม่ออกก็ไม่มีความหมาย (RNG) นอกเหนือจากเรดบอสบีนาห์ในเมืองแล้วในโหมดอื่น ๆ ก็ไม่น่าใช้เลย (ใช้ตะลุยด่านเกราะเหลืองไดเ้อยู่) แพ้ทางอย่างมากพื้นที่ในอาคาร สรุป   ส่วนตัวแนะนำให้ยืมเพื่อนเอา เพราะการจะ

  Executor the Ex Foedere ตัวละคร Guard ระดับ 6 ดาวสาย Reaper เป็นตัวละคร 6 ดาวตัวแรกของสาย Reaper จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเป็น AoE และเด้งเลือด 50 หน่วยทุกครั้งที่โจมตีใส่ศัตรู 1 ตัว จำนวนศัตรูที่โจมตีได้เท่ากับจำนวน block ของตัวละคร Talent 1 - เมื่อโจมตีมีโอกาส 20% ที่การโจมตีจะเบิ้ล 2 ฮิต; โอกาสจะเพิ่มขึ้น 5% ทุก ๆ จำนวนกระสุนที่ใช้ไประหว่างเปิดใช้งานสกิล, ค่านี้จะถูกรีเซ็ตเมื่อสกิลจบลง Talent 2 - จำนวนกระสุนของสกิล +1 ตามจำนวน Operator ประเภท Laterano(เผ่านางฟ้าที่มีวงแหวนบนหัว) ทับซ้อนได้สูงสุด 4 ครั้ง สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานสกิลจะเพิ่มระยะโจมตี, ATK +30%, ไม่สน DEF ศัตรู 280; สกิลจะมีกระสุน 8 นัด, สกิลจบลงเมื่อกระสุนหมดหรือกดยกเลิกสกิล; ใช้ SP 8 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +60%, DEF +60%, Block +1; เมื่อถูกโจมตีระยะประชิดใส่ มีโอกาส 30% จะหลบการโจมตีนั้นและรีโหลดกระสุน 1 นัด; สกิลจะมีกระสุน 12 นัด, สกิลจบลงเมื่อกระสุนหมดหรือกดยกเลิกสกิล; SP ตั้งต้น 6; ใช้ SP 15 สกิล