Kotenarok

  Aroma ตัวละคร Caster ระดับ 5 ดาวสาย Blast Caster ที่มาพร้อมสกิลเน้นลอย คอมโบกับตัวละครที่ทำลอยได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจเป็น AoE เส้นตรงยาว Talent - ศัตรูที่โดนโจมตีครั้งแรกจะโดนด้วย ATK คิดเป็น 110% และลอยขึ้นในอากาศ 2.5 วินาที สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานทำให้โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 180% เป็นเวทย์, ทำดาเมจเพิ่มอีก 70% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูที่บินอยู่ (รวมถึงที่ลอยอยู่ด้วย); เก็บได้ 2 ชาร์จ; ใช้ SP9 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +80%, ทำดาเมจ 80% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูที่ลอยอยู่แล้วตกลงบนพื้น; SP ตั้งต้น 21; ใช้ SP 48; ระยะเวลาสกิล 23 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ระยะโจมตีเป็นเส้นตรงเส้นเดียว ต้องหาจุดวางเล่น Talent มีผลแค่การโจมตีครั้งแรกที่ศัตรูโดนเท่านั้น สกิล 2 ทำดาเมจเพิ่มเติมเฉพาะศัตรูที่ลอยอยู่เท่านั้น (อาจต้องกะจังหวะกดสกิลให้โดนตอนที่มีตัวลอยอยู่) สรุป   สำหรับผู้เล่นทั่วไปแนะนำให้ข้าม แต่หากอยากลองทำทีมลอย อาจเป็นอีกตัวที่จับมาร่วมทีมได้

  GreyThroat ตัวละคร Sniper ระดับ 5 ดาวสาย Marksman สามารถเบิร์สดาเมจในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีศัตรูบินก่อนเสมอ Talent - ASPD +6, มีโอกาส 15% ที่จะโจมตีติดคริแรงขึ้นเป็น 150% สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานทำให้โจมตีครั้งถัดไปยิงออกมา 2 ลูก, แต่ละลูกทำดาเมจ 125% เป็นกายภาพ; เก็บชาร์จได้ 2 ชาร์จ; ใช้ SP 5 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +20%, โจมตี 3 ครั้งพร้อมกัน; SP ตั้งต้น 12; ใช้ SP 34; ระยะเวลา 17 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 2 หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตีเท่านั้น อีกทั้งระยะเวลาสกิลและ SP ที่ใช้ห่างกันครึ่งนึง ทำให้การเก็บ SP ใช้เวลานานพอสมควร สรุป   เป็นตัว Sniper ทั่วไปที่ทำดาเมจได้ดีระดับนึง ไม่มีความหวือหวา เหมาะกับผู้เล่นที่ขาดตัว Sniper จู่โจมตัวบิน สามารถปั้นไปเสริมทีมได้

  Ascalon ตัวละคร Specialist ระดับ 6 ดาวสาย Ambusher มีความสามารถในการ slow และทำดาเมจเป็น DoT จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจใส่ศัตรูทุกตัวในระยะโจมตี, โอกาสหลบหลีก 50% ทั้งเวทย์และกายภาพ, โอกาสตกเป็นเป้าลดลง Talent 1 - การโจมตีทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง 18% และโดนดาเมจ 10% ของ ATK เป็นเวทย์ทุก ๆ วินาที เป็นเวลา 25 วินาที, ทับซ้อนได้ 3 ครั้ง Talent 2 - ASPD +8; เพิ่ม ASPD อีก +6 หากมีพื้นยืนบนในระยะ 4 ช่องรอบตัว สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานทำให้โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจเป็น 170% และโจมตีเบิ้ล 2 ฮิต; เก็บได้ 3 ชาร์จ; SP ตั้งต้น 4; ใช้ SP 8 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +90%, ศัตรูที่ยืนบนในระยะโจมตีจะเคลื่อนที่ช้าลง -40%, เพิ่ม stack ของ Talent 1 ขั้นใส่ศัตรูใกล้เคียงกับตัวที่ตาย; SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 24; ระยะเวลา 35 วินาที สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้เพิ่มระยะโจมตี(ตามภาพด้านล่าง), ATK +20%, โจมตีเร็วขึ้นเล็กน้อย (ดีเลย์แต่ละโจมตีลดลง), ทำให้ศัตรูยืนพื้นในระยะโจมตีความแม่นยำล

  Specter the Unchained ตัวละคร Specialist ระดับ 6 ดาวสาย Dollkeeper ตายแล้วสลับร่างรอง ร่างหลักได้ โดยร่างรองยังดีบัฟและทำดาเมจไปได้ในตัวด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เมื่อตายจะสลับตัวเป็นร่างรองลงสนามมาแทน ซึ่งจะมี block 0 เป็นเวลา 20 วินาทีแล้วสลับกลับร่างหลัก Talent 1 - ร่างรองจะทำให้ศัตรูในระยะ 8 ช่องรอบตัวเคลื่อนที่ช้าลง 40% และทำดาเมจใส่ศัตรู 40% เป็นเวทย์ต่อวินาที Talent 2 - หากอยู่ในทีมจะทำให้ตัวละครประเภท Abyssal Hunter +20% Max HP สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะแลกเลือดกับพันธมิตรที่มีเลือดต่ำสุดในระยะ 8 ช่องรอบตัว (แลกเป็น %), Specter ได้รับ ATK +120%; SP ตั้งต้น 15; ใช้ SP 40; ระยะเวลา 25 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +100%, ASPD +34; ระหว่างที่สกิลเปิดใช้งานอยู่ เลือดของ Specter จะไม่ลดต่ำกว่า 1; เมื่่อสกิลจบลงจะตายทันที (สลับร่างรองลงมา); SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 35; ระยะเวลาสกิล 17 วินาที สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ จะโจมตีช้าลง, โจมตีศัตรูทุกตัวที่ติด block อยู

  Lunacub  ตัวละคร Sniper ระดับ 5 ดาวสาย Deadeye มีความสามารถในการล่องหนระหว่างไม่ได้เปิดใช้งานสกิลเป็นหลัก จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีศัตรูที่ DEF ต่ำสุดก่อน Talent - เมื่อไม่ได้เปิดใช้สกิลจะล่องหนตลอด; เมื่อเปิดใช้งานสกิลจะโจมตีเร็วขึ้นเล็กน้อย (ลดดีเลย์การโจมตีลง) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +60%; SP ตั้งต้น 8; ใช้ SP 24; ระยะเวลา 18 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ASPD +110 และล่องหนเป็นเวลา 5 วินาที; หากจัดการศัตรูได้ 1 ตัวในระหว่างใช้งานสกิล จะได้ล่องหนเพิ่มเป็น 7 วินาที (หากฆ่าได้เรื่อย ๆ ก็จะวนกลับไปที่ 7 วินาทีเรื่อย ๆ); SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 54; ระยะเวลา 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร หาได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 2 ใช้ SP ค่อนข้างสูง ใช้เวลาเด้ง SP นานกว่าจะใช้ได้อีกครั้ง สรุป   ที่น่าสนใจคือสามารถล่องหนที่อาจนำไปวางในตำแหน่งที่ฮีลไม่ถึงแต่ต้องการตัวยืนเคลียร์ศัตรูได้บ้าง แต่ก็เป็นสถานการณ์เฉพาะทาง แนะนำให้พิจารณาจากทีมที่มี

  Morgan ตัวละคร Guard ระดับ 5 ดาวสาย Dreadnought เป็นตัวแจกจาก Episode 12 [All Quiet Under The Thunder] ที่มีความสามารถในการทำดาเมจจากการลดเลือดตัวเอง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เป็นตัวแจกจาก Episode 12 [All Quiet Under The Thunder] ปั้น PO ง่าย Talent 1 - ยิ่งเลือดเหลือน้อยยิ่งบัฟ ATK เยอะ โดยสูงสุด +50% (52% ที่ PO5) ซึ่ง HP ต้องเหลือต่ำกว่าหรือเท่ากับ 30%  Talent 2 - ไม่กิน deployment slot หากใช้งานใน Episode 12 สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ทำดาเมจ 160% เป็นกายภาพ และลดเลือดตัวเองลง 12% ทุกครั้งที่โจมตี; SP ตั้งต้น 6; ใช้ SP 24; ระยะเวลา 12 วินาที สกิล 2 - เป็นสกิลติดตัว; ที่เลเวล 7 เมื่อลงสนามจะเสียเลือดทันที 70% แต่ได้รับบาเรียเท่ากับ 130% ของ Max HP (บาเรียจะค่อย ๆ ลดลงจนหมดใน 6 วินาที); การโจมตีทำดาเมจ 160% เป็นกายภาพ; ระยะเวลา 18 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร Talent 2 มีผลเฉพาะใน Episode 12 เท่านั้น ทุกสกิลเล่นกับการลดเลือดตัวเอง ทำให้ใช้งานได้ยากระดับนึง สกิล 2 บาเรียหายไปไวมาก ๆ สรุป   อัพมาเก็บเพชรแดงก็พอ

  Penance ตัวละคร Defender ระดับ 6 ดาวสาย Juggernaut มีความสามารถในการกวาดศัตรูจำนวนมากและฟื้นฟูบาเรียให้ตัวเองได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent 1 - เมื่อลงสนามจะได้รับบาเรียเท่ากับ 50% (55% ที่ PO3) ของ Max HP ทันที; เมื่อจัดการศัตรูได้จะได้รับบาเรีย 10% ของ Max HP (สูงสุดไม่เกิน 300%) Talent 2 - ทุกครั้งที่ถูกโจมตีตอนที่มีบาเรียอยู่ จะทำดาเมจกลับไปหาศัตรู 50% เป็นเวทย์ สกิล 1 (ไม่นิยม) - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจเพิ่มเติมเป็นเวทย์ 180%; Charge Effect: ทำดาเมจ 180% สตั๊นใส่เป้าหมาย 3 วินาที; ใช้ SP 4 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดเใช้จะหยุดโจมตีและได้รับ Sanctuary 50% (ลดดาเมจที่ได้รับลง); ทำดาเมจ 11% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูทั้งหมดในระยะ 8 ช่องรอบตัวที่ยืนบนพื้นทุกวินาที; ขณะที่สกิลเปิดใช้งานอยู่ เพิ่มความสามารถ Talent 1 80%; SP ตั้งต้น 14; ใช้ SP 34; ระยะเวลาสกิล 20 วินาที ใช้เคลียร์มอนจำนวนมาก สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเมื่อถูกโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะได้รับบาเรียทันที 100% ของ Max HP; โจมตี ช้าลง

  Spuria ตัวละคร Specialist ระดับ 5 ดาวสาย Geek สายบัฟให้กับ Sniper แต่แลกมากับการที่มีโอกาสสตั๊นใส่ตัวเอง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent - ทุกการโจมตีมีโอกาส 70% ที่จะก่อให้เกิดเอฟเฟ็กต์ต่อไปนี้:  1. โจมตีเบิ้ล 2 ฮิต 2. สตั๊นเป้าหมาย 1 วินาที 3. ไม่สน DEF 80% สกิล 1 - เป็นสกิลติดตัว; เมื่อลงสนาม ASPD +70; ระยะเวลา 18 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +20% และ ASPD +30 ให้กับตัวเองและ Sniper ด้านหน้าตัวเองที่อยู่ใกล้สุด; เมื่อโจมตี ตัวเองและ Sniper นั้นมีโอกาส 25% ที่จะสตั๊นใส่ตัวเอง 2 วินาที; SP ตั้งต้น 27; ใช้ SP 46 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ลดเลือดตัวเองตลอดเวลา เปิดได้จากกาชาเท่านั้น Talent RNG สุ่มออกว่าจะปล่อยอะไรออกมา สกิล 2 มีโอกาสถึง 25% ที่จะสตั๊นตัวเองและ Sniper ที่ได้บัฟ สรุป   ใช้งานยากมาก ข้ามไปเถอะ

  Verdant ตัวละคร Specialist ระดับ 4 ดาวสาย Dollkeeper ที่ทำมาให้มีไว้เฉย ๆ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เมื่อเลือดหมดหลอดสลับไปร่างรองที่มีค่า block 0 แทน และจะสลับกลับเมื่อผ่านไป 20 วินาที (หลอดสกิลเต็ม) Talent - ร่างรองเด้งเลือด 3.5% (4% ที่ PO5) ต่อวินาที สกิล 1 - เป็นสกิลติดตัว; ที่เลเวล 7 Max HP +18%, RES +10 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเปลี่ยนการโจมตีเป็นเวทย์, ASPD +50, เสียเลือด 4% ทุกครั้งที่โจมตีศัตรู; SP ตั้งต้น 16; ใช้ SP 26 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดหาได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 2 ลดเลือดตัวเองทุกครั้งที่โจมตี ร่างรองเด้งเลือดอย่างเดียว ไม่มีความสามารถอื่น ๆ เลย สรุป   เหมือนเอามาเติมให้มีสาย Dollkeeper ระดับ 4 ดาวให้ลองเล่นเฉย ๆ ไม่น่าปั้นมาใช้งานด้วยประการทั้งปวง

  Irene ตัวละคร Guard ระดับ 6 ดาวสาย Swordmasrter (ที่งัดปืนมายิง) มีความโดดเด่นในการทำให้ศัตรูลอย สามารถคอมโบกับตัวละครที่เน้นทำดาเมจใส่เป้าหมายบินได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจ 2 ฮิตในการโจมตีครั้งเดียว (แต่ก็ยังได้ SP นับเป็นโจมตีครั้งเดียว) Talent 1 - การทำดาเมจมีโอกาส 50% ที่จะไม่สน DEF 50%, โอกาสเพิ่มเป็น 100% เมื่อโจมตีศัตรูที่บิน Talent 2 - ASPD +18, บัฟเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อมีศัตรูประเภท Sea Monster ในสนาม สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อสกิลถูกใช้งาน การโจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 160% เป็นกายภาพ ทำให้เป้าหมายลอยขึ้น 1 วินาที และทำดาเมจอีก 160%; ใช้ SP 5 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำดาเมจ 340% เป็นกายภาพใส่ศัตรูยืนพื้นสูงสุด 6 เป้าหมาย, ส่งผลให้เป้าหมายที่น้ำหนักต่ำกว่าหรือเท่ากับ 3 ลอยเป็นเวลา 3 วินาที; เก็บได้ 2 ชาร์จ; ใช้ SP 10 สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำดาเมจ 250% เป็นกายภาพใส่ศัตรูทั้งหมดในระยะ, เป้าหมายลอยเป็นเวลา 3 วินาที, ทำดาเมจต

  Wind Chimes ตัวละคร Guard ระดับ 5 ดาวสาย Crusher สามารถชาร์จเพื่อโจมตีรุนแรงได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีศัตรูทุกตัวที่บล็อคอยู่ Talent - Max HP +5%, ได้รับบัฟ Vigor +20% ATK เมื่อมีเลือดสูงกว่า 50% สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +60%; SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 35; ระยะเวลาสกิล 30 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะหยุดโจมตี, บัฟ Sanctuary 30% (ลดดาเมจที่ได้รับลง), ATK ค่อย ๆ เพิ่มจนถึง 50%, เมื่อสกิลจบลงจะทำดาเมจออกไป 200% เป็นกายภาพใส่ศัตรูยืนพื้นทั้งหมด (จากการสังเกตคิดว่าระยะคือ 2 ช่องด้านหน้า) แลั stun ศัตรูเป็นเวลา 1 วินาที; สกิลสามารถกดยกเลิกได้ แล้วจะโจมตีออกไปก่อนแต่คาดว่าดาเมจจะลดลงเพราะบัฟ ATK ไม่น่าถึง 50%; SP ตั้งต้น 5; ใช้ SP 25; ระยะเวลาสกิล 5 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดหาได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 2 ใช้งานให้เกิดประสิทธิภาพยากมากหากต้องจัดการศัตรูหลายตัวในคราวเดียว ต้องกะเวลาที่สกิลจะออกให้ถูกจังหวะกับที่ศัตรูจะเดินเข้ามา อีกทั้งไม่มีผลกับตัวบิน ไม่มี DEF เลย สรุป   ใช้งานได้ยากแต่สิ่งท

  Qiubai ตัวละคร Guard ระดับ 6 ดาวสาย Lord (ตีไกล) สามารถ bind และทำดาเมจได้รุนแรง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีไกลได้ แต่ดาเมจลดลงเหลือ 80% Talent 1 - ทำดาเมจเพิ่มเติม 40% เป็นเวทย์เมื่อโจมตีศัตรูที่ติด bind หรือ slow Talent 2 - มีโอกาส 20% ทำให้ศัตรูติด bind 1.5 วินาที เมื่อทำการโจมตี สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้งานทำให้โจมตีครั้งถัดไปตรึงขาศัตรู (bind) เป็นเวลา 2.5 วินาที, เมื่อสถานะ bind หมดลง ทำดาเมจ 240% เป็นเวทย์ใส่เป้าหมายและศัตรูรอบ ๆ เป้าหมาย; ใช้ SP 5 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ทำดาเมจ 240% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูบนพื้นดินด้านหน้าตัวเอง, เปลี่ยนระยะโจมตีเป็น 4 ช่องด้านหน้า, ATK +90%, ศัตรูบนพื้นดินในระยะจะถูก slow; เมื่อสกิลจบลง ทำดามเจ 240% เป็นกายภาพใส่ศัตรูบนพื้นดินในระยะ; SP ตั้งต้น 4; ใช้ SP 12; ระยะเวลา 5 วินาที สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ระยะโจมตีเพิ่มขึ้น(ตามภาพ), ATK +40%, การโจมตีเปลี่ยนเป็นเวทย์, โจมตีใส่ศัตรูเพิ่มอีก 2 เป้าหมาย, การโจมต

  Chongyue ตัวละคร Guard ระดับ 6 ดาวสาย Fighter เป็นตัวละคร limited 1 ในพี่น้องมังกร เป็นตัว dps ที่ทำดาเมจได้สูงและหลายเป้าหมาย แต่ใช้งานได้ยาก จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent 1 - มีโอกาส 23% ที่โจมตีธรรมดาจะทำดาเมจแรงขึ้น 65% เป็นเวลา 2.5 วินาที (เป็นการดีบัฟใส่ศัตรู) Talent 2 - จะเด้ง 3 SP เมื่อจัดการศัตรูได้อย่างน้อย 1 ตัวเมื่อใช้งานสกิล สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ทำดาเมจ 290% เป็นกายภาพ, หากชาร์จเต็ม (3 ชาร์จ) จะใช้ชาร์จทั้งหมดทำดาเมจ (ทำให้แรงขึ้น); เก็บได้สูงสุด 3 ชาร์จ (3 หลอดสกิล); ใช้ SP 4 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำดาเมจ 350% เป็นกายภาพใส่ศัตรูสูงสุด 4 เป้าหมายในระยะ 8 ช่องรอบตัว หากศัตรูนั้นติดเอฟเฟ็กต์ของ Talent 1 อยู่จะติดสถานะลอย(Levitate)เป็นเวลา 1 วินาที, ดีบัฟศัตรูนั้นด้วย Talent 1 ด้วยโอกาสติด 100%, และทำดาเมจเพิ่มเติม 480%; เก็บได้ 2 ชาร์จ; SP ตั้งต้ง 7; ใช้ SP 11 สกิลนี้สามารถใช้กับศัตรูที่บินได้ด้วย สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้ (ในช่วงแรก); ที่เลเวล 7 เมื่อ

  Melanite ตัวละคร Sniper ระดับ 5 ดาวสาย Heavy Shooter มีความสามารถโจมตีเป็นเส้นตรงด้านหน้าได้ค่อนข้างรุนแรง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent - ดาเมจเพิ่มขึ้น 15% เมื่อใช้งานสกิลตั้งแต่ครั้งที่ 2 ขึ้นไป สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ โจมตีช้าลง , ATK +160%; SP ตั้งต้น 20; ใช้ SP 40; ระยะเวลาสกิล 30 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะโจมตีไปด้านหน้าตัวเอง 4 ช่องด้วยดาเมจ 450% แต่ยิ่งศัตรูอยู่ไกลดาเมจยิ่งเบาลง โดยดาเมจที่ทำได้ต่ำสุดคือ 180%; เก็บได้ 2 ชาร์จ; SP ตั้งต้น 6; ใช้ SP 18 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 1 โจมตีช้าลง สกิล 2 ระยะสกิลเปลี่ยนเป็นเส้นตรงด้านหน้าอย่างเดียว และยิ่งศัตรูอยู่ไกลยิ่งตีเบาลง ระยะโจมตีธรรมดาแคบ (ปกติของสายนี้) สรุป   ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าปั้นเพราะใช้งานได้ยาก มีเงื่อนไขการใช้งานเยอะ

  Poncirus ตัวละคร Vanguard ระดับ 5 ดาวสาย Pioneer มีสกิลบัฟโจมตีและป้องกันได้ตลอดทั้งเกมหลังจากเปิดใช้งาน 2 ครั้ง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร บล็อค 2 Talent - เมื่อลงสนามไปแล้ว 30 วินาที Max HP +15% (+18% ที่ PO5)  สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้สกิลจะเด้ง DP ทันที 12; SP ตั้งต้น 14; ใช้ SP 38 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเด้ง DP ทันที 11, ATK +20% และ DEF +50%; หากเปิดใช้งานสกิลครั้งที่ 2 จะเด้ง 1 DP ทุก ๆ 4 วินาที และระยะเวลาสกิล ไม่จำกัด ; SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 44; ระยะเวลาสกิล(รอบแรก) 15 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 2 ใช้เวลานานกว่าจะ full buff และให้ค่า DP น้อย (เด้งแค่ 1 ทุก 4 วินาที) สาย Pioneer มักไม่ค่อยได้หยิบาใช้ เปิดได้จากกาชาเท่านั้น สรุป   เป็นตัวละครที่น่าสนใจตรงที่สกิลไม่มีระยะเวลาจำกัด เหมาะกับเล่นด่านที่ใช้เวลานาน เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

  Bubble ตัวละคร Defender ระดับ 4 ดาวสาย Protector มีความสามารถดีบัฟลด ATK ศัตรูที่โจมตีเข้ามา อีกทั้งมีสกิลที่ใช้ DEF มาทำดาเมจสะท้อนด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร บล็อค 3 Talent - เมื่อศัตรูโจมตีใส่จะทำให้ ATK ของศัตรูลดลง 8% เป็นเวลา 5 วินาที สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ DEF +50%; SP ตั้งต้น 5; ใช้ SP 38; ระยะเวลาสกิล 35 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะหยุดโจมตี, DEF +85% และดึงความสนใจให้ศัตรูโจมตี, เมื่อถูกโจมตีจะทำดาเมจคืนไป 40% ของ DEF เป็นกายภาพ; ใช้ SP 49; ระยะเวลาสกิล 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 2 ทำให้หยุดโจมตี และใช้ SP ค่อนข้างสูง เทียบกับเวลา CD ทำให้เป็นสกิลที่มีระยะเวลาเปิดใช้งานได้น้อยลง สรุป   เป็นตัวละคร 4 ดาวที่น่าสนใจ แต่ปกติแล้วมักจะใช้ Cuora กันก็แทบจะไม่ต้องใช้ตัวละครอื่นเลย หากใครต้องการตัว Defender งบน้อยมาใช้เพิ่มก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ