Kotenarok

  Penance ตัวละคร Defender ระดับ 6 ดาวสาย Juggernaut มีความสามารถในการกวาดศัตรูจำนวนมากและฟื้นฟูบาเรียให้ตัวเองได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent 1 - เมื่อลงสนามจะได้รับบาเรียเท่ากับ 50% (55% ที่ PO3) ของ Max HP ทันที; เมื่อจัดการศัตรูได้จะได้รับบาเรีย 10% ของ Max HP (สูงสุดไม่เกิน 300%) Talent 2 - ทุกครั้งที่ถูกโจมตีตอนที่มีบาเรียอยู่ จะทำดาเมจกลับไปหาศัตรู 50% เป็นเวทย์ สกิล 1 (ไม่นิยม) - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจเพิ่มเติมเป็นเวทย์ 180%; Charge Effect: ทำดาเมจ 180% สตั๊นใส่เป้าหมาย 3 วินาที; ใช้ SP 4 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดเใช้จะหยุดโจมตีและได้รับ Sanctuary 50% (ลดดาเมจที่ได้รับลง); ทำดาเมจ 11% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูทั้งหมดในระยะ 8 ช่องรอบตัวที่ยืนบนพื้นทุกวินาที; ขณะที่สกิลเปิดใช้งานอยู่ เพิ่มความสามารถ Talent 1 80%; SP ตั้งต้น 14; ใช้ SP 34; ระยะเวลาสกิล 20 วินาที ใช้เคลียร์มอนจำนวนมาก สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเมื่อถูกโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะได้รับบาเรียทันที 100% ของ Max HP; โจมตี ช้าลง

  เรอิสะ (Reisa) เป็นตัวละคร Striker สาย Tanker ยืนหน้า เป็นแท้งค์สายถึก มีความสามารถที่จะฮีลตัวเอง ดีบัฟศัตรูได้ด้วยการลดเกราะและยั่วยุ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเหลือง / เกราะเหลือง ถนัดอย่างมากพื้นที่ในอาคาร สกิล EX - ใช้ cost 3 โจมตีใส่ศัตรูเป็นรัศมีทรงกรวย 3 ครั้ง (ขวา ซ้าย กลาง) ทำดาเมจ 372% - 707%, ลบดีบัฟจากตัวเอง 1 อัน สกิลพื้นฐาน - ฟื้นฟูให้ตัวเองต่อเนื่อง 22.7% - 43.1% ทุก ๆ 50 วินาที เป็นเวลา 30 วินาที สกิลติดตัว - เพิ่ม ATK และ HP 11.2% - 16.2% สกิลรอง - เมื่อใช้สกิล EX ลด DEF ของเป้าหมายลง 6% - 11.4% เป็นเวลา 25 วินาที, ยั่วยุ 1 วินาที เหมาะกับบอสที่มีเมคานิกต้องดีบัฟใส่บอส (ล่าสุดที่เจอคือแกรนด์เรดบอส เกรกอเรียส) จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร แพ้ทางอย่างมากพืิ้นที่ในเมือง สรุป   ยืมเพื่อนได้ แต่ถ้ามีก็แนะนำให้ปั้นในตอนที่จำเป็นต้องใช้จริง ๆ เพียง 3 ดาวก็ใช้งานได้ดีแล้ว

  Spuria ตัวละคร Specialist ระดับ 5 ดาวสาย Geek สายบัฟให้กับ Sniper แต่แลกมากับการที่มีโอกาสสตั๊นใส่ตัวเอง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent - ทุกการโจมตีมีโอกาส 70% ที่จะก่อให้เกิดเอฟเฟ็กต์ต่อไปนี้:  1. โจมตีเบิ้ล 2 ฮิต 2. สตั๊นเป้าหมาย 1 วินาที 3. ไม่สน DEF 80% สกิล 1 - เป็นสกิลติดตัว; เมื่อลงสนาม ASPD +70; ระยะเวลา 18 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +20% และ ASPD +30 ให้กับตัวเองและ Sniper ด้านหน้าตัวเองที่อยู่ใกล้สุด; เมื่อโจมตี ตัวเองและ Sniper นั้นมีโอกาส 25% ที่จะสตั๊นใส่ตัวเอง 2 วินาที; SP ตั้งต้น 27; ใช้ SP 46 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ลดเลือดตัวเองตลอดเวลา เปิดได้จากกาชาเท่านั้น Talent RNG สุ่มออกว่าจะปล่อยอะไรออกมา สกิล 2 มีโอกาสถึง 25% ที่จะสตั๊นตัวเองและ Sniper ที่ได้บัฟ สรุป   ใช้งานยากมาก ข้ามไปเถอะ

  Verdant ตัวละคร Specialist ระดับ 4 ดาวสาย Dollkeeper ที่ทำมาให้มีไว้เฉย ๆ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เมื่อเลือดหมดหลอดสลับไปร่างรองที่มีค่า block 0 แทน และจะสลับกลับเมื่อผ่านไป 20 วินาที (หลอดสกิลเต็ม) Talent - ร่างรองเด้งเลือด 3.5% (4% ที่ PO5) ต่อวินาที สกิล 1 - เป็นสกิลติดตัว; ที่เลเวล 7 Max HP +18%, RES +10 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเปลี่ยนการโจมตีเป็นเวทย์, ASPD +50, เสียเลือด 4% ทุกครั้งที่โจมตีศัตรู; SP ตั้งต้น 16; ใช้ SP 26 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดหาได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 2 ลดเลือดตัวเองทุกครั้งที่โจมตี ร่างรองเด้งเลือดอย่างเดียว ไม่มีความสามารถอื่น ๆ เลย สรุป   เหมือนเอามาเติมให้มีสาย Dollkeeper ระดับ 4 ดาวให้ลองเล่นเฉย ๆ ไม่น่าปั้นมาใช้งานด้วยประการทั้งปวง

  Irene ตัวละคร Guard ระดับ 6 ดาวสาย Swordmasrter (ที่งัดปืนมายิง) มีความโดดเด่นในการทำให้ศัตรูลอย สามารถคอมโบกับตัวละครที่เน้นทำดาเมจใส่เป้าหมายบินได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจ 2 ฮิตในการโจมตีครั้งเดียว (แต่ก็ยังได้ SP นับเป็นโจมตีครั้งเดียว) Talent 1 - การทำดาเมจมีโอกาส 50% ที่จะไม่สน DEF 50%, โอกาสเพิ่มเป็น 100% เมื่อโจมตีศัตรูที่บิน Talent 2 - ASPD +18, บัฟเพิ่มเป็น 2 เท่าเมื่อมีศัตรูประเภท Sea Monster ในสนาม สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อสกิลถูกใช้งาน การโจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 160% เป็นกายภาพ ทำให้เป้าหมายลอยขึ้น 1 วินาที และทำดาเมจอีก 160%; ใช้ SP 5 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำดาเมจ 340% เป็นกายภาพใส่ศัตรูยืนพื้นสูงสุด 6 เป้าหมาย, ส่งผลให้เป้าหมายที่น้ำหนักต่ำกว่าหรือเท่ากับ 3 ลอยเป็นเวลา 3 วินาที; เก็บได้ 2 ชาร์จ; ใช้ SP 10 สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำดาเมจ 250% เป็นกายภาพใส่ศัตรูทั้งหมดในระยะ, เป้าหมายลอยเป็นเวลา 3 วินาที, ทำดาเมจต

  มิซาโตะ (Misato) ตัวละคร collab จากซีรี่ย์ Evangelion เป็นตัวละครสาย Supporter เป็นตัวแตกฟรีระดับ SR แต่ limited เฉพาะช่วงกิจกรรม collab มีความสามารถในการฮีลทีม จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนกลมือ ยิงระยะใกล้ ธาตุเหล็ก โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 8.1%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 120 นัด; รีโหลด 1 วินาที สกิล 1 มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติเข้าเป้า 60 ครั้ง ส่งผลกับตนเอง ได้รับบัฟ คู่มือยิงปืน ส่งผลให้แม่นยำเพิ่มขึ้นสูงสุด 5.04% ทับซ้อนได้ 3 ครั้ง ระยะเวลา 5 วินาที 2. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติเข้าเป้า 120 ครั้ง ส่งผลกับพันธมิตรที่มี % HP ต่ำสุด ฮีลให้กับเป้าหมาย 8.04% ของ Max HP ขั้นสุดท้ายของผู้ร่าย สกิล 2 มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่ออยู่ในบัฟ คู่มือยิงปืน ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด ดาเมจที่ทำต่อโล่แรงขึ้นสูงสุด 150% อย่างต่อเนื่อง  2. เปิดใช้งานเมื่อบัฟ คู่มือยิงปืน แสต็กเต็ม ส่งผลกับตนเอง ฮีลแรงขึ้น 30.05% อย่างต่อเนื่อง เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 1; CD 40 วินาที; ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด เด้งเลือดให้ทุกคนในทีมสูงสุด 5.06% ของ Max HP ขั้นสุดท้ายของผู้ร่ายทุก ๆ 1 วินาที เป็นเวล

  มาริ (Mari) ตัวละคร collab จากซีรี่ย์ Evangelion เป็นตัวละครสาย Supporter เป็นตัว limited เฉพาะช่วงกิจกรรม collab มีความสามารถในการบัฟพลังโจมตีให้กับปาร์ตี้ และมีบัฟโจมตีให้การยิงทะลุอีกด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ไรเฟิลซุ่มยิง โจมตีระยะไกลได้ดี ธาตุสายฟ้า โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 69.04%; เวลาชาร์จ 1 วินาที; ดาเมจชาร์จเต็ม 250%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 6 นัด; รีโหลด 2 วินาที สกิล 1 มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีเข้าเป้าด้วยชาร์จเต็ม ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด - ดาเมจที่ทำต่อโล่แรงขึ้นสูงสุด 100.09% เป็นเวลา 3 วินาที 2. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีโดนแกนศัตรู ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด - ดาเมจยิงทะลุแรงขึ้นสูงสุด 40.99% เป็นเวลา 10 วินาที สกิล 2 มี 2 เอฟเฟ็กต์ เปิดใช้งานทุก ๆ 10 วินาที 1. ส่งผลกับตนเอง ได้รับยิงทะลุ 5 วินาที ATK เพิ่มขึ้นสูงสุด 30.78% เป็นเวลา 5 วินาที 2. ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด ATK เพิ่มขึ้นสูงสุด 30.78% ของ ATK ของผู้ร่าย เป็นเวลา 5 วินาที เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 2: CD 20 วินาที; มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. ส่งผลกับศัตรูทั้งหมด - ทำดาเมจสูงสุด 639.36% ของ ATK ขั้นสุดท้าย 2. ส่

  เรย์ (Rei) ตัวละคร collab จากซีรี่ย์ Evangelion เป็นตัวละครสาย Attacker เป็นตัว limited เฉพาะช่วงกิจกรรม collab มีความสามารถในการบัฟให้กับปาร์ตี้ธาตุไฟเสริมดาเมจให้ทีมได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนกล (MG) โจมตีระยะกลางได้ดี ธาตุไฟ โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 5.57%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 300 นัด; รีโหลด 2.5 วินาที สกิล 1 มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติ 100 ครั้ง ส่งผลกับตนเอง - ดาเมจธาตุชนะทางเพิ่มขึ้นสูงสุด 30.23% เป็นเวลา 3 วินาที 2. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติ 100 ครั้ง ส่งผลกับศัตรูในระยะโจมตีที่อยู่ใกล้เป้าเล็งที่สุด - ทำดาเมจสูงสุด 112.37% ของ ATK ขั้นสุดท้าย สกิล 2 มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อเริ่มการต่อสู้ ส่งผลกับตนเอง - ดาเมจที่ทำต่อโล่แรงขึ้นสูงสุด 700.5%  2. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สขั้น 3 (เข้าในว่าใครกดเบิร์สก็ได้) ส่งผลกับพันธมิตรธาตุไฟทั้งหมด - พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 25.03% ของ ATK ผู้ร่าย 10 วินาที เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 3; CD 40 วินาที; มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. ส่งผลกับพันธมิตรธาตุไฟทั้งหมด - สร้างโล่สูงสุด เท่ากับ 13.44% ของ Max hp ขั้นสุดท้ายของผู้ร่าย เป

  อาสึกะ (Asuka) ตัวละคร collab จากซีรี่ย์ Evangelion เป็นตัวละครสาย Attacker เป็นตัว limited เฉพาะช่วงกิจกรรม collab มีความสามารถในการทำดาเมจใส่โล่และชนะธาตุที่รุนแรง  จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ไรเฟิลจู่โจม โจมตีระยะกลางและใกล้ได้ดี ธาตุไฟ โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 18.76%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 20 นัด; รีโหลด 1 วินาที สกิล 1 มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่การต่อสู้ ส่งผลกับตนเอง - ทำดาเมจใส่โล่ได้สูงสุด 601.01% (เฉพาะโล่เท่านั้น ไม่มีผลกับตัวศัตรู) 2. เปิดใช้งานเมื่อได้รับฮีล ส่งผลกับตนเอง - ATK เพิ่มสูงสุด 96.98% เป็นเวลา 25 วินาที สกิล 2 มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สเต็ม ส่งผลกับตนเองเมื่ออยู่ในสถานะโล่ (มีโล่บัฟอยู่) ดาเมจชนะทางธาตุเพิ่มขึ้นสูงสุด 30.02% เป็นเวลา 10 วินาที 2. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สเต็ม ส่งผลกับพันธมิตรธาตุไฟ ดาเมจโจมตีใส่แกนที่ทำได้แรงขึ้นสูงสุด 60.07% เป็นเวลา 10 วินาที เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 3; CD 40 วินาที; ส่งผลกับตนเอง ยิงทะลุเป็นเวลา 25 วินาที ดาเมจโจมตีเพิ่มขึ้นสูงสุด 150.04% เป็นเวลา 10 วินาที ฟื้นฟูสูงสุด 3.16% ของดาเมจท

  ซากุระ: คิมหันต์แย้มกลีบ (Sakura: Bloom in Summer) ตัวละครสาย Attacker เป็นตัว limited เฉพาะตู้ของช่วงกิจกรรมฤดูร้อนรอบที่ 2 เป็นเบิร์สสามธาตุลมที่หาใช้งานยากมาก ณ ปัจจุบัน จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ไรเฟิลจู่โจม โจมตีระยะกลางและใกล้ได้ดี ธาตุลม โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 13.65%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 60 นัด; รีโหลด 1 วินาที สกิล 1 - มีทั้งหมด 4 เอฟเฟ็กต์ อ้างอิงจากสกิลเลเวล 10 1. เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่การต่อสู้ ส่งผลกับจนเอง - บังคับใช้สกิล 2 2. เปิดใช้งานเมื่อ"ใครก็ได้"ทำลายชิ้นส่วนศัตรู ส่งผลกับตนเอง - ดาเมจต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 5.1% เป็นเวลา 30 วินาที 3. เปิดใช้งานเมื่อ"ใครก็ได้"ทำลายชิ้นส่วนศัตรู ส่งผลกับตนเองเมื่อมีบัฟ"บุปผาร่ายรำ" (บัฟจากสกิล 2) - ระยะเวลาของบัฟ"บุปผาร่ายรำ"เพิ่มขึ้น 10.02 วินาที 4. เปิดใช้งานเมื่อ"ใครก็ได้"ทำลายชิ้นส่วนศัตรู ส่งผลกับศัตรูทั้งหมดที่ติดสถานะ"กลีบซากุระ" (เป็นดีบัฟจากสกิล 2) - ระยะเวลาของดีบัฟ"กลีบซากุระ"เพิ่มขึ้น 10.02 วินาที สกิล 2 - มีทั้งหมด 2 เอฟเฟ็กต์ อ้างอิงจากสกิลเลเวล 10 เปิ

  Melanite ตัวละคร Sniper ระดับ 5 ดาวสาย Heavy Shooter มีความสามารถโจมตีเป็นเส้นตรงด้านหน้าได้ค่อนข้างรุนแรง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent - ดาเมจเพิ่มขึ้น 15% เมื่อใช้งานสกิลตั้งแต่ครั้งที่ 2 ขึ้นไป สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ โจมตีช้าลง , ATK +160%; SP ตั้งต้น 20; ใช้ SP 40; ระยะเวลาสกิล 30 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะโจมตีไปด้านหน้าตัวเอง 4 ช่องด้วยดาเมจ 450% แต่ยิ่งศัตรูอยู่ไกลดาเมจยิ่งเบาลง โดยดาเมจที่ทำได้ต่ำสุดคือ 180%; เก็บได้ 2 ชาร์จ; SP ตั้งต้น 6; ใช้ SP 18 จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 1 โจมตีช้าลง สกิล 2 ระยะสกิลเปลี่ยนเป็นเส้นตรงด้านหน้าอย่างเดียว และยิ่งศัตรูอยู่ไกลยิ่งตีเบาลง ระยะโจมตีธรรมดาแคบ (ปกติของสายนี้) สรุป   ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าปั้นเพราะใช้งานได้ยาก มีเงื่อนไขการใช้งานเยอะ

  Poncirus ตัวละคร Vanguard ระดับ 5 ดาวสาย Pioneer มีสกิลบัฟโจมตีและป้องกันได้ตลอดทั้งเกมหลังจากเปิดใช้งาน 2 ครั้ง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร บล็อค 2 Talent - เมื่อลงสนามไปแล้ว 30 วินาที Max HP +15% (+18% ที่ PO5)  สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้สกิลจะเด้ง DP ทันที 12; SP ตั้งต้น 14; ใช้ SP 38 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเด้ง DP ทันที 11, ATK +20% และ DEF +50%; หากเปิดใช้งานสกิลครั้งที่ 2 จะเด้ง 1 DP ทุก ๆ 4 วินาที และระยะเวลาสกิล ไม่จำกัด ; SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 44; ระยะเวลาสกิล(รอบแรก) 15 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 2 ใช้เวลานานกว่าจะ full buff และให้ค่า DP น้อย (เด้งแค่ 1 ทุก 4 วินาที) สาย Pioneer มักไม่ค่อยได้หยิบาใช้ เปิดได้จากกาชาเท่านั้น สรุป   เป็นตัวละครที่น่าสนใจตรงที่สกิลไม่มีระยะเวลาจำกัด เหมาะกับเล่นด่านที่ใช้เวลานาน เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ

  Bubble ตัวละคร Defender ระดับ 4 ดาวสาย Protector มีความสามารถดีบัฟลด ATK ศัตรูที่โจมตีเข้ามา อีกทั้งมีสกิลที่ใช้ DEF มาทำดาเมจสะท้อนด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร บล็อค 3 Talent - เมื่อศัตรูโจมตีใส่จะทำให้ ATK ของศัตรูลดลง 8% เป็นเวลา 5 วินาที สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ DEF +50%; SP ตั้งต้น 5; ใช้ SP 38; ระยะเวลาสกิล 35 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะหยุดโจมตี, DEF +85% และดึงความสนใจให้ศัตรูโจมตี, เมื่อถูกโจมตีจะทำดาเมจคืนไป 40% ของ DEF เป็นกายภาพ; ใช้ SP 49; ระยะเวลาสกิล 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 2 ทำให้หยุดโจมตี และใช้ SP ค่อนข้างสูง เทียบกับเวลา CD ทำให้เป็นสกิลที่มีระยะเวลาเปิดใช้งานได้น้อยลง สรุป   เป็นตัวละคร 4 ดาวที่น่าสนใจ แต่ปกติแล้วมักจะใช้ Cuora กันก็แทบจะไม่ต้องใช้ตัวละครอื่นเลย หากใครต้องการตัว Defender งบน้อยมาใช้เพิ่มก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

 ฮิฟุมิ (Hifumi) เป็นตัวละคร Striker สาย Supporter ยืนกลาง มีความสามารถโยนหุ่นล่อศัตรูให้โจมตีหุ่น ช่วยดึงดาเมจจากศัตรูได้มาก อีกทั้งทำ CC ใส่ศัตรูด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเหลือง / เกราะแดง ถนัดอย่างมากพื้นที่กลางแจ้ง สกิล EX - cost 5 เรียกตุ๊กตามาทำดาเมจ 202% - 386% ใส่ศัตรูในรัศมี / ยั่วยุ (นับเป็น CC) 3.4-3.9 วินาที / ตัวตุ๊กคามี HP 160% ของ max HP ของฮิฟุมิ ดึงดาเมจจากศัตรู และบางด่านดึงสกิลสั่งตายของบอสไปลงที่ตุ๊กตาแทนได้ สกิลพื้นฐาน - ทำดาเมจ 212% ใส่ศัตรู 1 เป้าหมายทุก ๆ 35 วินาที / ลดแม่นยำเป้าหมายลง 16.8% - 32% เป็นเวลา 30 วินาที สกิลติดตัว - เพิ่ม max HP 14% - 26.6% สกิลติดตัว+ - เพิ่ม HP 3600 - 6840 สกิลรอง - เมื่อใช้สกิล EX จะเพิ่มค่าฟื้นฟู cost 980 - 1861 เป็นเวลา 5 วินาที ใช้งานได้ดีมากกับเรดบอสวาคาโมะเรือโฮเวอร์คราฟในเฟสแรก หาได้จากการฟาร์มระดับ Hard ด้วย จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล EX ใช้ cost ค่อนข้างสูงคือ 5 หน่วย โอกาสใช้งานไม่มาก นาน ๆ จะมีต้องหยิบมาใช้ที สรุป   เป็นตัวละครที่ไม่ต้องรีบทำสำหรับมือใหม่ ปั้นตอนที่จำเป็นต้องหยิบมาใช้ก็ยังทัน ในยามที่ต้อ

  Windflit ตัวละคร Supporter ระดับ 5 ดาวสาย Artificer ซึ่งเป็นสายยืนล่าง สามารถใช้ของเล่นบัฟให้กับ Caster และ Supporter ได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร บล็อคได้ 2 Talent - มีของเล่น 3 ชิ้นชื่อ Reliable Batteries สามารถบัฟให้กับ Caster และ Supporter ได้โดยวางช่องข้าง ๆ แล้วหันเข้าหาตัวที่ต้องการบัฟ; บัฟส่งผลให้ ATK +15% (+17% ที่ PO5) คงอยู่ในสนาม 30 วินาที; สามารถเรียกลงสนามได้สูงสุด 2 ชิ้นเท่านั้น สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 ทำให้โจมตีครั้งถัดทำดาเมจ 190% เป็นกายภาพใส่ศัตรูทั้งหมด 8 ช่องรอบตัว, เด้ง SP 1 ให้กับตัวละครที่ใส่ Reliable Batteries อยู่; เก็บได้ 2 ชาร์จ; ใช้ SP 7 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำให้โจมตี ช้าลง , ATK +130%; บัฟ ATK ของ Talent เพิ่มขึ้นอีก 1.7 เท่า; เมื่อสกิลจบลงได้รับ Reliable Batteries 1 ชิ้น; SP ตั้งต้น 30; ใช้ SP 50; ระยะเวลาสกิล 15 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดได้จากกาชาเท่านั้น สกิล 2 ืทำให้ตีช้าลง ของเล่นบัฟได้เฉพาะ Caster หรือ Supporter เท่านั้น เป็นตัวละครยืนล่าง แต่ไม่ใช่ทั้งแท้งค์

  Ansel ตัวละคร Medic ระดับ 3 ดาว มีจุดเด่นในการใช้สกิลแล้วเพิ่มระยะอีก 2 ช่องด้านหน้า จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent - มีโอกาส 15% (18% ที่ PO5) ที่จะฮีลเพิ่มอีก 1 เป้าหมาย สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ทำให้ระยะฮีลไกลขึ้นอีก 2 ช่องด้านหน้า (ระยะเดิมบวกไปอีก 2 แถว) ; ATK +40% (ฮีลแรงขึ้น); SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 35; ระยะเวลาสกิล 25 วินาที 3 ดาวปั้นง่าย จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร 3 ดาวมีข้อจำกัดเรื่องของ base stat ต่ำ และอัพสุดแค่ E1 Talent เป็น rng โอกาสติดน้อยมาก หวังพึ่งไม่ได้ 100%  สรุป   แนะนำอย่างมากกับผู้เล่นใหม่ที่มาเล่นต้นเกม ในส่วนของท้ายเกมก็ยังมีนาน ๆ หยิบมาทีเมื่อต้องการระยะฮีลไกล ๆ มาใช้หรือตัวช่วยฮีลที่ใช้ DP ลงสนามน้อย