Kotenarok

   Rope ตัวละคร Specialist สายดึง 4 ดาว เป็นตัวที่อ่อนกว่า Cliffheart หากมี Cliffheart แล้วให้อัพเอาแค่เควสเพชรก็พอแล้ว จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร วางได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง (เป็นปกติของ Specialist สาย Shift) มีหลบหลีกกายภาพ 30% (เพิ่มเป็น 34% เมื่อ PO5)  แต่มักไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ โดยปกติจะวางด้านบนและห่างจากจุดปะทะ สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง ใช้สกิลเองอัตโนมัติ เมื่อสกิลถูกใช้จะทำให้การโจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ กายภาพ 160% ของพลังโจมตีและดึงเป้าหมายเข้าหาตัว ใช้กับด่านที่มีหลุมให้ดึงตก แต่ใช้ได้กับตัวที่มีน้ำหนักไม่มาก สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะทำดาเมจกายภาพ 180% ของพลังโจมตี ดึงเป้าหมาย 2 เป้าหมายในระยะเข้าหาตัว ใช้ดึงตกได้ 2 เป้าหมายพร้อมกัน ใช้กับตัวที่น้ำหนักไม่มากเช่นกัน ระยะดึงไกลกว่าระยะโจมตีปกติ 1 ช่อง จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ถ้าเทียบตรง ๆ กับ Cliffheart ที่มีหน้าที่เดียวกัน จะอ่อนกว่า Cliffheart พอสมควร เป็นตัวเฉพาะทางที่ต้องหาพื้นที่ดึงตกให้เล่น จะไม่ได้นำไปใช้บ่อยนัก สรุป หากมี Cliffheart แล้วแนะนำให้อัพแค่ E2 เลเวล 1 ไว้ลงด่านเก็บเพชรก็

  Perfumer ตัวละคร Medic 4 ดาว แบบฮีลหมู่ตัวแรกที่ทุกคนจะได้ฟรี มีบทบาทมากในด่านช่วงกลางเกมไปจน end game เป็นตัวที่แนะนำให้มือใหม่ควรจะอัพเอาไว้ใช้จนกว่าจะได้ฮีลหมู่ตัวอื่นมาใช้งาน (อาจอัพแค่ E1 ไว้ใช้ก็ได้) จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ฮีลหมู่ได้ 3 ตัวพร้อมกัน ได้มาฟรี หาง่าย Talent - เด้งเลือดให้เพื่อนเท่ากับ 5% ของพลังโจมตีนางทุกวินาที (เพิ่มเป็น 5.5% ทั้ PO5) ใช้งานกับตัวละครที่ไม่สามารถฮีลด้วยวิธีปกติได้ อีกทั้ใช้แก้ทางด่านที่มีสภาพแวดล้อมลดเลือดตัวละครลงเรื่อย ๆ ได้ด้วย เป็นตัวที่มีค่า HP, DEF สูงเมื่อเทียบกับ Medic ทั่วไป สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใ้ช้ ความเร็วการโจมตีจะลดลง ASPD -50% แต่พลังโจมตีเพิ่มขึ้น ATK +210% สกิลหากิน ใช้สกิลนี้เป็นหลักในการเร่งให้ฮีลแรงขึ้นเมื่อเจอกับศึกหนัก จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 2 ลดความเร็วในการโจมตี ทำให้บางจังหวะถ้ากดใช้ผิดจะทำให้ฮีลไม่ทันออก ตัวละครตายก่อน แพ้ทางพวกตีแรงและเร็ว สรุป ส่วนตัวผมได้ใช้ตอนช่วงที่อัพ E1 ตอนที่ยังไม่มีน้องนกฮูก  Ptilopsis  ซึ่งช่วยเหลือในการเล่นได้มาก แนะนำว่าคนที่ไม่มีฮีลหมู่ควรอัพไ

 บทความนี้ไม่เชิงจะมารีวิว แต่จะมา"อวย"เกมนี้ล้วน ๆ แต่สำหรับใครไม่รู้จักเกมนี้ จะอธิบายคร่าว ๆ เข้าใจง่าย ๆ คือเกมนี้เป็นเกมแนว TD (Tower Defense) ที่ผสมผสาน RPG บวกกับ Hero collector (สะสมตัวละคร) เข้าด้วยกัน พัฒนาโดย Yostar ผู้พัฒนาเดียวกับเกม Azure Lane ส่วนตัวผมเคยได้เล่นเกมแนวกาชามาหลายเกม ด้วยความเกลือระดับไตวายจนทำให้ช่วงหนึ่งผมหมดศรัทธาในเกมแนวกาชาไปเลย คือเกมไหนมีกาชาผมจะไม่เล่นเด็ดขาด แต่แล้วเกมนี้ได้ออกมา ในช่วงแรกผมได้ยินกระแสที่ดีมาก แต่ไม่กล้าเล่นเพราะได้ยินคำร่ำลือว่าเกมมันยาก ปวดกบาลหนักมากในการเล่น ซึ่งงานประจำผมก็ปวดหัวมากพออยู่ละจึงไม่ได้เริ่มเล่นแต่แรก แต่สุดท้ายด้วยกระแสกับความที่ชอบ TD เป็นทุนเดิมจึงตัดสินใจลอง และก็เล่นมาจนถึงทุกวันนี้ จากประสบการณ์ที่เกลือที่สุดในเกมนี้คือตอนผมโรลหา Schwarz คือลงเงินไปน่าจะเกือบหมื่นนึงได้ (โคตรอยากได้) เพราะหลุดเรทไปได้ตัวอื่นหลายรอบมาก แต่หลังจากนั้นก็ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้อีก ส่วนมากคือจะเปิดได้ตั้งแต่ใช้เพชรที่เติมรายเดือน + เพชรฟรี (รายเดือน 150 บาท ได้เพชรทุกวัน + เพชรฟรีที่แจกเรื่อย ๆ รับจากด่านรายสัปดาห์ หรือฟา

   Liskarm ตัวละคร Defender 5 ดาว ที่มีชื่อเล่นเรียกกันว่าน้องพาวเวอร์แบงค์ เพราะความสามารถในการชาร์จหลอดสกิลให้เพื่อนได้ อีกทั้งยังมีความโดดเด่นในระยะการโจมตีอีกด้วย จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ระยะโจมตีด้านหน้าตัวเอง 2 ช่อง อีกทั้งสามารถโจมตีตัวบินได้ด้วย (ใช้ปืนยิงนั่นเอง) พลังโจมตีโดดเด่นกว่า Defender ทั่วไป Talent 1 - เมื่อถูกโจมตี เด้งหลอดสกิล 1 แต้มให้กับตัวเองและเพื่อนที่อยู่ช่องข้างเคียง 1 คน (ถ้ามีมากกว่า 1 คนจะสุ่มเด้งให้คนเดียวเท่านั้น) มักใช้คอมโบกับตัวที่เน้นใช้สกิลหนัก ๆ โดยเอาไปยืนข้าง ๆ ตัวนั้นตัวเดียว ปล. จะทำงานเมื่อดาเมจที่ได้รับเข้าเลือดเท่านั้น ถ้าหลบได้หรือบล็อคดาเมจสกิลจะไม่ทำงาน Talent 2 - ป้องกันเวทย์ +10 (ที่ PO5 เพิ่มเป็น +13) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อถูกโจมตี สกิลใช้งานเองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 เมื่อสกิลทำงานจะบล็อคดาเมจการโจมตีครั้งถัดไปและบัฟ DEF +80% เป็นเวลา 8 วินาที เป็นสกิลที่นิยมเพราะใช้ง่ายและให้ผลดี เนื่องจากหลัก ๆ เอามาเพื่อเร่งหลอดสกิลให้เพื่อนมากกว่า สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อถูกโจมตี เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะทำให้โจมตีช้าลง, พลังโจมตี

  Mountain ตัวละคร Guard 6 ดาว เป็นตัวละครที่ทำดาเมจได้น่ากลัว อีกทั้งสามารถยืนเลนด้วยตัวคนเดียวได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ค่า DP ที่ใช้ลงสนามน้อยมากเมื่อเทียบกับ Guard ตัวอื่น ๆ Talent 1 - มีโอกาส 20% ที่จะติดคริ ทำดาเมจเป็น 160% และลดพลังโจมตีเป้าหมายลง 15% เป็นเวลา 3 วินาที (ไม่สามารถ stack ได้) Talent 2 - DEF +10%, หลบหลีกกายภาพ +15% สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ที่เป็นสกิลเปิด / ปิด หลอดสกิลเด้งไวมาก ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ -DEF 25%(ใส่ตัวเอง), ระยะโจมตีสั้นลง(เหลือเท่ากับ Defender ทั่วไป ที่ต้องให้มอนเดินมาชนถึงจะโจมตีใส่), ATK +50%, Block +1, โจมตีใส่ศัตรูที่ถูกบล็อคทุกตัว (ก็คือ 2 ตัว), เด้งเลือด 5% ของ max hp ต่อวินาที ที่ M3 -DEF 20%, ATK +80%, เด้งลือดเพิ่มเป็น 7% ของ max hp ต่อวินาที เป็นสกิลที่นิยมใช้งานกันมากที่สุด ยืนเลนคนเดียวได้โดยไม่ต้องมีตัวฮีลช่วย สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ หลอดสกิลเด้งค่อนข้างไว ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ โจมตีช้าลง, ATK +70%, โจมตีใส่เป้าหมาย 2 hit ต่อตัว,  ทำให้โอกาสติดคริเพิ่มเป็น 55%, โจมตีเป็น AOE ใส่เป้าหมายสูงสุด 3 ตัวที่อยู

 Nightingale ตัวละครสาย Medic ฮีลหมู่ 6 ดาว ช่วยให้เล่นด่านเนื้อเรื่องหลัง ๆ ง่ายขึ้นมากจากความสามารถเพิ่มป้องกันเวทย์ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ฮีลหมู่ให้เพื่อนได้พร้อมกัน 3 เป้าหมาย Talent 1 - เพิ่มป้องกันเวทย์(RES)ให้เพื่อนในระยะ +15  จะเพิ่มเป็น +17 ที่ PO 5 Talent 2 - ซัมม่อน Phantom ลงสนามได้ โดยตัว Phantom ไม่สามารถ block หรือโจมตีได้ ลงสนามมาเพื่อเป็นตัวล่อให้ศัตรูโจมตี เมื่อลงสนามมาเลือดจะค่อย ๆ ลดลง 3% ของเลือดเต็ม ตัว Phantom สามารถใช้เป็นกำแพงบังลูกไฟในด่าน H8-4 ได้ด้วย สกิล 3 (ขออนุญาตข้ามมาสกิลนี้เลย เพราะใช้สกิลเดียวจริง ๆ) - เพิ่มระยะการฮีล ที่เลเวล 7 ATK +50%; กันเวทย์ (RES) +105% ให้เพื่อนที่อยู่ในระยะ อีกทั้งเพิ่มหลบหลีกเวทย์ 20% สกิลนี้จะมีบทบาทมากในด่านที่ศัตรูโจมตีเวทย์แรง ๆ โดยเฉพาะด่าน H8-4 ที่ช่วยให้ทีมทนต่อลูกไฟได้ จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร 6 ดาวปั้นยาก หามาใช้ยาก ใช้งานเฉพาะกับด่านที่ต้องการป้องกันเวทย์สูง ในด่านปกติใช้น้องนกฮูก  Ptilopsis ดีกว่า เพื่อเร่งหลอดสกิล สรุป มือใหม่ข้ามตัวนี้ไปได้เลย ไปปั้นเอาตอนที่ต้องใช้กับด่านหลัง ๆ ที่ต้องการป้องกันเวทย์ให้ท

 ยู มีนา อเวค (Awakened Yoo Mina) เค้าเตอร์อเวคสายพลปะทะ เป็นตัวละครที่มีความน่าเกรงขามในด้านดาเมจที่มหาศาล จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ตัวละครภาคพื้นดิน, โจมตีภาคพื้น ตีธรรมดาเป็นระยะประชิด AoE เป้าหมายหวังผล 2 สกิลติดตัว - เมื่อลงสนามจะพุ่งไปข้างหน้าและทำดาเมจ AoE และทำดาเมจเพิ่มเติมในรัศมี 6 เมตร ในโหมด PVP ดาเมจที่ทำเพิ่มเติมจะคิดเป็น 15% ของเลือดปัจจุบันของเป้าหมายหวังผล (ไม่มีผลกับยานรบ) หลังจากโจมตีธรรมดา 3 ครั้ง ครั้งถัดไปจะได้บัฟตีแรงขึ้น สกิลมีบัฟเพิ่มความเร็วในการโจมตีถาวรตั้งแต่เลเวล 2-4 ที่เลเวล 5 จะทำให้ต้านทานสตันจากสกิลพิเศษหรือต่ำกว่าเป็นเวลา 6 วินาทีหลังจากลงสนาม และเพิ่มความเร็วในการโจมตี 30% เป็นเวลา 6 วินาที เป็นสกิลที่น่ากลัวมาก ๆ ในโหมด PVP ทำให้เธอสามารถพุ่งไประเบิดดาเมจแถวหลังของฝั่งตรงข้ามได้ (คือวางจากตรงกลาง แต่สกิลจะพุ่งด้านหน้าประมาณนึง มักจะโดนแถวหลังพอดี) สกิลพิเศษ - พุ่งใส่เป้าหมายทำดาเมจ AoE เป้าหมายหวังผล 3, คูลดาวน์ 18 วินาที ที่เลเวล 5 ลดคูลดาวน์ลง -4 วินาที และนับติดตัวเป็นสกิลพิเศษ(ในส่วนนี้ผมไม่รู้เลยว่ามันมีผลยังไง ใครทราบรบกวนคอมเม้นต์ไว้ด้านล่าง

 บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อเก็บไว้ดูเองส่วนหนึ่ง ลืมบ่อยมากว่าคลาสไหนชนะคลาสไหน การชนะทางจะมีผลให้ทำดาเมจแรงขึ้น +30% ส่วนถ้าเกิดแพ้ทางจะทำดาเมจได้เบาลง -30% ส่วนคลาสที่อยู่นอกเหนือจากในภาพนี้จะไม่มีผลของการชนะ-แพ้ทาง จะคิดดาเมจตามปกติ

 ฮิลเด้ อเวค (Awakened Hilde) เค้าเตอร์อเวคสายพลตั้งรับ ตัวอเวคตัวแรกของเกม จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ประเภทภาคพื้นดิน, โจมตีภาคพื้นดิน โจมตีธรรมดาระยะประชิดเป็น AoE เป้าหมายหวังผล 2 สกิลติดตัว - เมื่อลงสนามจะผลักเป้าหมายในระยะ 8 เมตรไปในทิศทางที่เธอหันหน้า, พุ่งใส่เป้าหมายที่ห่างจากเธออย่างน้อย 3 เมตร, ทำดาเมจ AoE เมื่อปะทะและบังคับให้เป้าหมายโจมตีเธอ 3 วินาที เป้าหมายหวังผล 2, ลดคูลดาวน์สกิลพิเศษ 3 วินาทีเมื่อใช้สกิลนี้ ที่เลเวล 5 สร้างบาเรียเท่ากับ 8% ของพลังชีวิตสูงสุดให้เพื่อนทั้งหมดเมื่อลงสนาม ซึ่งบาเรียไม่สามารถลบล้างได้, ลดคูลดาวน์สกิลพิเศษปรับเป็น 5 วินาที สกิลนี้เป็นสกิลที่โกงเอาเรื่อง ทั้งผลักและพุ่งใส่ศัตรูทำให้สร้างพื้นที่ให้ทีมเราได้อย่างมาก และจำกัดพื้นที่ของศัตรูให้เล่นได้ยากขึ้น สกิลพิเศษ - โดดถอยหลังแล้วกระแทกลงพื้นทำดาเมจ AoE เป้าหมายหวังผล 3, สร้างบาเรียเท่ากับ 25% ของพลังชีวิตสูงสุด, ในขณะที่มีบาเรียจะทนทานต่อสตันจากสกิลพิเศษหรือต่ำกว่า(ป้องกันจากสกิลไม้ตายไม่ได้), คูลดาวน์ 28 วินาที ที่เลเวล 5 จะได้รับดาเมจจากศัตรูที่ชนะทางลง 100% ขณะที่บาเรียทำงาน เป็นสกิลที่ทำให

 ไททัน (Titan) จักรกลสายปะทะ เป็นตัวหลักในทีมจักรกล (ณ ปัจจุบันที่เขียน) มีเลือดเยอะ และทำดาเมจได้ AoE ได้ดี จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเฉพาะภาคพื้นดิน โจมตีธรรมดาเป็น AoE ใส่เป้าหมายเป็นระยะ ๆ โดยมีเป้าหมายหวังผล 3 จะหยุดโจมตีหลังจากผ่านไป 14 วินาที หรือเป้าหมายตาย หรือเป้าหมายถอยห่างออกไป 10 เมตร สกิลติดตัว 1 - เพิ่มความเร็วการชาร์จสกิล, ทุกครั้งที่มีศัตรูหรือเพื่อนตายจะบัฟเพิ่มต้านทานดาเมจ 3% ต่อ 1 ตัวที่ตาย มีผลกับจักรกลในทีมด้วย สูงสุด 30%  ที่เลเวล 5 เมื่อลงสนามจะ +1 คะแนนวางทัพให้ และบัฟต้านทานดาเมจตามประเภทและตัวละครในสนาม(เรื่องบัฟส่วนนี้ไม่มีคำอธิบายที่แน่ชัด) สกิลพิเศษ - ยิงมิสไซล์ทำดาเมจเป็น AoE เป้าหมายหวังผล 3 ที่เลเวล 5 คูลดาวน์ 25 วินาที สกิลติดตัว 2 - เพิ่มความเร็วในการโจมตี ที่เลเวล 5 จะต้านทานสถานะสตัน  เซ็ตที่แนะนำให้ใส่คือเซ็ตเลือดเพียว ๆ เพื่อให้เลือดจากเดิมสูงขึ้นไปอีก ทำให้ถึกืนนาน ทำดาเมจเรื่อย ๆ จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร คะแนนที่ใช้ลงสนามสูงมาก (ใช้ 6 แต้ม) ใน PVP เป็นเสาหลักของทีมจักรกล ณ ตอนนี้ ถ้าตายคือแพ้แน่นอน เพราะงั้นต้องเน้นฮีลให้ยืนได้นานขึ้น ทำ