Kotenarok

 Indra ตัวละคร Guard สาย Brawler(ใช้ DP ลงน้อย block ตัวเดียว ทำดาเมจได้รัว) ระดับ 5 ดาว เป็นตัวละครที่ได้จาก recruit หรือทำเควส recruit ให้ครบจำนวน(ผมจำตัวเลขไม่ได้) ทำเควสสำเร็จแล้วจะได้ใบเลือกตัวละครมาเลือกเธอได้ ทำให้เป็น 1 ในตัวละครที่หามาร่วมทีมยากที่สุดตัวหนึ่ง (จะมี 2 อันคือ recruit ครบ 300 และ 1000 ครั้ง จะได้ตั๋วอย่างละใบ) จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ใช้ DP ลงสนามน้อย (ใช้ 10 หน่วยที่ E2 แบบไม่มี PO) Talent - โอกาสหลบหลีกโจมตีประชิดแบบกายภาพ 30%, เพิ่มโจมตี +100% เมื่อหลบหลีกสำเร็จ สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี สกิลใช้เองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 เมื่อทำการโจมตีครั้งถัดไปพลังโจมตี +110% และไม่สน DEF เป้าหมาย 45% เป็นสกิลใช้เจาะเกราะตัวที่ DEF เยอะได้ สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะเพิ่มพลังโจมตี +75%; ดาเมจที่ทำกลายเป็นเวทย์; เด้งเลือด 20% ของดาเมจที่ทำเมื่อทำการโจมตี เป็นสกิลบัฟโจมตีที่ใช้ต่อกรกับตัวที่แพ้เวทย์ได้ดี อีกทั้งช่วยให้เธอเอาตัวรอดได้มากขึ้นจากการเด้งเลือด จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร หายากมาก เพราะได้จาก recruit หรือทำเควสเท่านั้น HP

 Hellagur ตัวละคร Guard block เดี่ยว 6 ดาว เป็นตัวละครเน้นยืนเลนคนเดียวได้(แต่ควรอัพเลเวลไประดับนึง) มีความสามารถในการฮีลตัวเองและทำดาเมจได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร มีเลือดและพลังโจมตีสูง เด้งเลือด 70 หน่วยทุกครั้งที่ทำการโจมตี Talent 1 - ASPD จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนเลือดที่เสียไป โดยสูงสุด ASPD +100 เมื่อเลือดต่ำกว่า 30% Talent 2 - เมื่อไม่ได้ block ศัตรูอยู่จะเด้งเลือดตัวเอง 60 หน่วยต่อวินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +50%, ทำให้โจมตีเบิ้ลเป็น 2 ครั้ง และเพิ่มหลบหลีกกายภาพ 75% ระยะเวลาสกิล 12 วินาที เป็นสกิลที่าใช้ทั้งทำดาเมจและเพิ่มความอยู่รอดด้วยอัตราหลบหลีกที่เพิ่มขึ้น เหมาะกับเลนที่ศัตรูมาไม่มาก ไว้ 1-1 กับศัตรู สกิล 3 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +70% ระยะโจมตีเพิ่มขึ้น 1 ช่องด้านหน้า (รวมเป็น 2 ช่อง) โจมตีศัตรูได้ 3 ตัวพร้อมกัน ระยะโจมตีจะเพิ่ม 2 ช่องเมื่ออัพเป็น M1 ขึ้นไป เป็นสกิลที่ใช้ยืนเลนที่มีศัตรูออกมาจำนวนมากได้ จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร 6 ดาวปั้นยาก DEF ต่ำ ใช้ DP ในการลงสนามสูง ไม่สามารถฮีลให้ได้ (ใช้ไ

 Provence ตัวละคร Sniper สายยิงระยะใกล้ระดับ 5 ดาว เป็นตัวละครที่ถ้าไม่มี paradox simulation ก็ไม่เหลือเหตุผลอื่นให้ต้องมายุ่งกับเธออีกแล้ว ใช้ยากเกินไป และศักยภาพก็ไม่สู้ตัวละครอื่น จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent - มีโอกาส 20% ที่จะติดคริทำให้โจมตีแรงขึ้น 180% (ที่ PO5 เพิ่มเป็น 190%) หากศัตรูอยู่ช่องข้างหน้าเธอ โอกาสจะเพิ่มเป็น 50% สกิล 1 - เป็นสกิลติดตัว ที่เลเวล 7 จะเพิ่มพลังโจมตี +16% ทุก ๆ 20% ของ HP ที่หายไปของเป้าหมาย สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะทำให้พลังโจมตี +160% แต่เธอจะไม่โจมตีใส่เป้าหมายที่เลือดสูงกว่า 80% ระยะเวลาสกิล 30 วินาที จุดด้อย / ข้อเสีย ระยะยิงสั้นมาก ๆ ใช้ DP ในการลงสนามสูง เมื่อเทียบกับตัวละคร class เดียวกัน โจมตีค่อนข้างช้า ทำให้ talent ยากที่จะมีผล สกิล 2 ทำให้ไม่สนศัตรูที่เลือดสูงกว่า 80% ถ้ากดผิดจังหวะก็ไร้ประโยชน์ทันที ใช้งานได้ยาก สรุป อาจจะเป็นตัวแรก ๆ ที่มีจุดด้อยเยอะกว่าจุดเด่นเสียอีก ก็แนะนำให้ปั้นให้พอผ่านด่าน paradox simulation ละกัน

การชนะทางกันของเกม Blue Archive จะเป็นประเภทการโจมตีที่มีผลต่อเกราะนั้น ๆ โดยแถวบนจะเป็นประเภทการโจมตี แนวฝั่งซ้ายจะเป็นประเภทป้องกัน การโจมตี การโจมตีนั้นจำง่ายคือโจมตีสีใดก็จะตีเกราะสีนั้นแรง เช่น โจมตีระเบิด(สีแดง) ก็จะโจมตีพวกเกราะเบาที่มีเลือดเป็นสีแดงแรงขึ้นนั่นเอง การป้องกัน การป้องกันจะต้องจำเอาว่าป้องกันสีใดโดนโจมตีสีไหนจะเบาลง หมายเหตุ Normal = โจมตีดาเมจเป็นปกติ ไม่เบาลงหรือแรงขึ้น Weak = จะดาเมจแรงขึ้นเป็น 150% Resist = ดาเมจจะเบาลงเหลือ 50%

  Savage ตัวละคร Guard โจมตีหมู่ระดับ 5 ดาว เป็นตัวละครที่แจกฉลองครบรอบประจำปีของเกมเท่านั้น (อัพ PO ยากมาก) สปอยเลยว่าเป็นตัวละครถ้าเทียบกับหลาย ๆ ตัวแล้วไม่น่าปั้นมาใช้สักเท่าไหร่ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ที่ E2 สามารถ block ศัตรูได้ 3 ตัว โจมตีหมู่ใส่ศัตรูเท่าจำนวนที่ block (สูงสุด 3 ตัว) Talent - เมื่อ 4 ช่องข้างตัว(บนล่างซ้ายขวา)เป็นช่องสำหรับลง operator ยิงไกล จะได้รับบัฟ ATK และ DEF +10% สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อโจมตี สกิลใช้เองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 ทำให้การโจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจเป็น 200%  เป็นสกิลที่ใช้งานตรงไปตรงมา ใช้บูสดาเมจได้ตลอดทั้งเกม สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเมื่อโจมตี เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะทำดาเมจ 360% ของพลังโจมตีเป็นดาเมจกายภาพใส่ศัตรูสูงสุด 4 เป้าหมาย ระยะสกิลด้านหน้า 3 ช่อง เป็นสกิลที่ทำดาเมจได้ดี จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร stat โดยรวมนับว่าต่ำ โดยเฉพาะพลังโจมตี ถ้าอัพจนตันจะอยู่ที่ 705 ซึ่งหากเทียบกับตัวละครใน role เดียวกันอย่าง Broca จะมีพลังโจมตี 842 หรือ Specter จะมีพลังโจมตี 805 ค่า stat ของนางจะเทียบเท่าได้กับตัวละคร 4 ดาวเสียมากกว่า สกิล 1 เป็

  Earthspirit ตัวละคร Supporter สาย slow ศัตรูระดับ 4 ดาว นับว่าเป็นตัวละครเวอร์ชั่นอัพเกรดของ Orchid ก็ว่าได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเป็นเวทย์และทำให้เป้าหมาย slow เป็นระยะเวลาสั้น ๆ Talent - เพิ่มระยะเวลาติด slow ขึ้นเล็กน้อย (จะทำให้ slow นานกว่าตัวละครสายเดียวกันนิดหน่อย) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะบัฟ ATK +50% เป็นระยะเวลา 25 วินาที การใช้งานตรงไปตรงมา บูสดาเมจเป็นระยะเวลาหนึ่ง สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะ" หยุดโจมตี "แต่จะทำให้ศัตรูที่อยู่ในระยะโจมตีติดสถานะ slow ทุก ๆ 1.6 วินาที ระยะเวลาสกิล 25 วินาที เป็นสกิลซัพให้ตัวดาเมจสามารถใช้เวลาจัดการกับศัตรูได้นานขึ้น ก่อนที่จะเดินหลุดระยะโจมตีไป เหมาะกับใช้ฆ่าตัวใหญ่หรือฝูงมอนที่มาเยอะมาก ๆ จนเคลียร์ไม่ทัน จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร มีค่า stat พื้นฐานต่ำ โดยเฉพาะพลังโจมตี เป็นตัวที่เน้นซัพให้เพื่อนโดยการ slow ศัตรูมากกว่าจะฆ่าด้วยตัวเอง สกิล 2 ทำให้เธอหยุดโจมตี ต้องมั่นใจว่าใช้แล้วตัวดาเมจจะเคลียร์มอนเองได้หมด สรุป ส่วนตัวแนะนำว่าอัพแค่ E2 เลเวล 1 ไ

 Mayer ตัวละคร Supporter สาย Summon หมาหุ่นยนต์ 5 ดาว เป็นตัวละครที่จัดว่าใช้งานยากมาก แต่ถ้าใช้เป็นก็นับว่าโหดเอาเรื่อง จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเป็นเวทย์ สามารถเรียกหมาออกมาได้สูงสุด 5 ตัว โดยแต่ละตัวสามารถ block ศัตรูได้ 1 และยังทำให้ศัตรูที่โจมตีใส่โดนดีบัฟลด ASPD ลง -25; ใช้ค่า DP เพียง 5 ในการลงสนาม หมาจะมี stat เพิ่มตามเลเวลของตัว Mayer ยิ่งเลเวลสูง หมายิ่งเก่ง **หมาใช้ค่า unit ร่วมกับ operator อื่น ๆ ถ้าลงหมาเยอะอาจไม่เหลือ slot ไว้ลงตัวละครอื่น สกิล 1 - สกิลติดตัว ที่เลเวล 7 ทำให้หมามีบัฟหลบหลีกทั้งกายภาพและเวทย์ 25% ที่ M1 ทำให้เพื่อนที่อยู่ช่องใกล้กับหมาได้รับบัฟไปด้วย (4 ช่อง บนล่างซ้ายขวา) เป็นสกิลที่ใช้ในการเล่นแบบยื้อเกมได้ เพราะหมายืนได้นานขึ้น อีกทั้งยังบัฟให้เพื่อนได้ด้วย สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะสั่งให้หมาทุกตัวระเบิดตัวเอง ทำดาเมจ 450% ของพลังโจมตีเป็นดาเมจเวทย์ ทำให้ศัตรูติดสตัน 1 วินาที ระยะสกิล 3x3 ช่อง เป็นสกิลที่เน้นใช้จัดการศัตรูทันทีเดี๋ยวนั้น น่าเอาไปใช้กับศัตรูที่ตายหรือถูกโจมตีแล้วทำดาเมจใส่เราได้ เช่น แมงมุมระเบิ

 Phantom ตัวละคร Specialist สาย fast-redeploy 6 ดาว มีร่างโคลนให้ลงสนาม เสมือนมี Phantom 2 ตัว จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เวลา cooldown ในการลงสนามอีกครั้งน้อย (fast-redeploy) แต้ม DP ที่ใช้ลงสนามต่ำ Talent 1 - มีร่างโคลนให้หยิบลงสนาม ร่างโคลนนี้จะมีสกิลเหมือนร่างต้นทุกอย่าง (เลือกสกิลไหนมาก็จะมีสกิลนั้น) block ศัตรูได้ 1 ตัว ร่างโคลนมีเวลา cooldown ในการลงสนามเป็นของตัวเอง แยกจากร่างต้น หากร่างต้นตายหรือถูกถอนออกจากสนาม ร่างโคลนจะหายไปด้วย Talent 2 - ลด cooldown ในการลงสนามของร่างโคลนลง 10 วินาที  สกิล 1 (ไม่นิยมใช้) - สกิลติดตัว ที่เลเวล 7 เมื่อลงสนามจะได้รับบัฟหลบลีกกายภาพ 40% และโล่ที่ดูดซับดาเมจกายภาพได้เท่ากับ 50% ของ Max HP เป็นระยะเวลา 10 วินาที สามารถใช้ในการดึงเกม ใช้ในลักษณะเดียวกับ Gravel สกิล 2 - สกิลติดตัว ที่เลเวล 7 เมื่อลงสนามจะมีชาร์จ 9 ชาร์จ โดยแต่ละชาร์จจะให้บัฟ +16% ATK (ในส่วนนี้ผมเข้าใจว่าเริ่มมาคือจะเท่ากับได้ 16 x 9 = 144% ATK หาคนช่วยคอมเฟิร์มส่วนนี้อีกที) ทุก 1 การโจมตีจะเสีย 1 ชาร์จ พูดให้เข้าใจง่ายมันคือสกิลบัฟโจมตีไว้ฆ่าเป้าหมายเดี่ยวเป็นหลัก คล้ายกับสกิล 1

 สมมติเรามี getter ชื่อ foo ตามโค้ดด้านล่างที่รับ argument 1 ตัว getters: { foo: (state) => (bar) => {      return bar; } } เราสามารถประกาศใน computed ได้แบบนี้ computed: { ...mapGetters([ 'foo', //ส่งชื่อ getter ที่ต้องการใช้เข้าไปตรง ๆ ได้เลย ]) } จากนั้นเวลาเรียกใช้ก็สามารถเรียกใช้ได้เหมือน getter ปกติเลย created() { console.log(this.foo('hello')); // logs "hello" } อ้างอิง:  https://stackoverflow.com/questions/43807123/pass-params-to-mapgetters

  Warfarin ตัวละคร Medic ฮีลเป้าหมายเดี่ยว 5 ดาว มีความสามารถในการบัฟ ATK ให้กับเพื่อนได้ นิยมเอามาบัฟให้ตัวดาเมจหนัก ๆ ให้แรงขึ้นไปอีกขั้น จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร Talent - เมื่อฆ่าศัตรู 1 ตัวในระยะฮีล เด้ง 2 SP ให้ตนเองและสุ่มให้เพื่อนอีก 1 คนที่อยู่ในระยะฮีล สามารถใช้วิธีเดียวกับ Liskarm ได้ คือวางตัวที่ต้องการให้เด้ง SP ไว้ในระยะเพียงตัวเดียว สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อฮีลให้เพื่อน สกิลใช้เองอัตโนมัติ ที่เลเวล 7 เมื่อสกิลถูกใช้จะทำให้การฮีลแรงขึ้นโดยเพิ่มขึ้น 19% จาก Max HP ของเป้าหมาย แต่สกิลจะถูกใช้ต่อเมื่อเป้าหมายเลือดลดต่ำกว่า 50% (เหมือนสกิล 1 Saria ) เก็บได้สูงสุด 3 ชาร์จ (จะเก็บได้ 4 ชาร์จเมื่อขึ้น M3) เป็นสกิลที่ใช้เพื่องัดเลือดเพื่อนที่ใกล้ตายได้ดี สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง เป็นสกิลกดใช้ ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะบัฟให้ตัวเองและสุ่มเพื่อนมา 1 คนที่อยู่ในระยะ (วางตัวเดียวในระยะเพื่อให้รับบัฟได้เหมือนเดิม) ATK +60% แต่จะเสียเลือด 3% ของ Max HP ทุกวินาที เป็นระยะเวลา 15 วินาที  ที่ M3 ATK +90% เป็นสกิลที่นิยมใช้มาบัฟให้ตัวดาเมจให้ทำดาเมจได้สูงขึ้นไปอีก หากจะมาสายนี้แนะนำให้อัพ M