Kotenarok

  เทีย (Tia) ตัวละครสาย Defender สังกัดมิสสิลิส 1 ในคู่ตัวละครนักเรียน มีความสามารถในให้โล่กับเพื่อนร่วมทีม จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนยิงจรวด ยิงได้ทุกระยะ ธาตุเหล็ก โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 61.3%ว เวลาชาร์จ 1 วินาที; ดาเมจชาร์จเต็ม 250%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 6 นัด; รีโหลด 2 วินาที สกิล 1 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ (อิงจากสกิลเลเวล 10) 1. เปิดใช้งานเมื่อได้รับฟื้นฟูกำบัง (ตัวที่ทำหน้าที่นี้ได้ต่อเนื่องที่สุดคือ นากะ ) ส่งผลกับตนเอง; CD เบิร์สสกิลลดลง 13 วินาที ทับซ้อนได้สูงสุด 2 ครั้ง (รวมกัน 26 วินาที) คงอยู่ 12 วินาที  2. เปิดใช้งานเมื่อได้รับฟื้นฟูกำบัง ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด ดาเมจจากการโจมตีเพิ่มขึ้น 32.11% ระยะเวลา 10 วินาที สกิล 2 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติเข้าเป้า 5 ครั้ง ส่งผลกับตนเอง; HP สูงสุดของกำบังเพิ่มขึ้น +32.75% ของ Max HP ผู้ร่าย ระยะเวลา 5 วินาที; ยั่วยุศัตรูทั้งหมด 5 วินาที; 2. เปิดใช้งานเมื่อใช้เบิร์สสกิล(ของตนเอง) ส่งผลกับตนเอง; ฟื้นฟูกำบัง 21.41% ของ Max HP ขั้นสุดท้ายของผู้ร่าย; ฟื้นฟู HP 21.96% ของดาเมจที่ทำได้ เป็นเวลา 10 วินาที เบิร์สสกิล - เบิร์สล

  นากะ (Naga) ตัวละครสาย Supporter สังกัดมิสสิลิส 1 ในคู่ตัวละครนักเรียน มีความสามารถในการฟื้นฟูกำบัง, ฮีล, และบัฟดาเมจให้กับทีม จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนลูกซอง ยิงระยะใกล้ ธาตุสายฟ้า โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 204.8%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 9 นัด; รีโหลด 1.5 วินาที สกิล 1 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ (อิงตามสกิลเลเวล10) 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติ 12 ครั้ง ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด; ฟื้นฟูกำบัง 14.57%  2. เปิดใช้งานเมื่อได้รับโล่ (จะได้รับจากตัวละครอื่น โดยต้องเป็นโล่ที่บัฟใส่ตัวนากะโดยตรง ซึ่งตัวที่เหมาะสมที่สุดคือ เทีย ) ส่งผลกับพันธมิตรทั้งหมด; ดาเมจโจมตีใส่แกนแรงขึ้น 85.17% เป็นเวลา 10 วินาที สกิล 2 - มี 2 เอฟเฟ็กต์ (อิงตามสกิลเลเวล 10) 1. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติ 5 ครั้ง ส่งผลกับพันธมิตรที่ ATK สูงสุด 2 ยูนิต; ดาเมจโจมตีแกนแรงขึ้น 40.07% เป็นเวลา 5 วินาที 2. เปิดใช้งานเมื่อโจมตีปกติ 5 ครั้ง ส่งผลกับพันธมิตรที่ % HP ต่ำสุด 2 ยูนิต; ฟื้นฟู HP เท่ากับ 9.58% ของ Max HP ผู้ร่าย เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 2; CD 20 วินาที; มี 3 เอฟเฟ็กต์ (อิงตามสกิลเลเวล 10) 1. ส่งผลกับตนเอง; ได้รับเจาะเกราะ 10 วิน

   Humus ตัวละคร Guard ระดับ 4 ดาวสาย Reaper ที่โจมตีหมู่แบบกวาด 3 ช่องด้านหน้าและฮีลตัวเองได้จากการโจมตี เป็นตัวเริ่มต้นของสายนี้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเป็น AoE 3 ช่องด้านหน้าตัวเองตามจำนวน block; เด้งเลือด 50 ทุกครั้งที่โจมตีศัตรู Talent - หากเด้งเลือดตอนเลือดเต็มจะเอามาเก็บเป็นบาเรียแทน โดยเก็บได้สูงสุด 100% (104% ที่ PO5) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเมื่อทำการโจมตี; สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เเลเวล 7 ทำให้โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 220%, เด้งเลือด 80; ใช้ SP 3 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้บล็อค +1 และจะได้ผลของเอฟเฟ็กต์ Vigor ทำให้ ATK +36% เมื่อ HP สูงกว่า 50%; และ ATK +72%(2 เท่า) เมื่อ HP สูงกว่า 80%; SP ตั้งต้น 25; ใช้ SP 45; ระยะเวลาสกิล 25 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ไม่สามารถฮีลโดยตรงได้ ต้องใช้เอฟเฟ็กต์เด้งเลือดแทน เปิดได้จากกาชาเท่านั้น สรุป   สำหรับใครที่สนใจสาย Reaper สามารถปั้นมาลองใช้งานดูก่อนได้ แต่ไม่แนะนำให้ปั้นจนสุดด้วยดาเมจสู้ตัว 5-6 ดาวไม่ได้แน่นอน

   Kafka ตัวละคร Specialist ระดับ 5 ดาวสาย Executor (เข้าทำจัดการเป้าหมายและเอาออกจากสนาม) มีความสามารถในการทำให้ติดสถานะหลับได้ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เป็น fast-redeploy ทำให้ลดระยะเวลาในการลงสนามอีกครั้งเหลือ 18 วินาที Talent - เมื่อสกิลเปิดใช้งาน ATK +15% (ที่ PO5 +18%), บล็อค 0, และได้รับสถานะล่องหน สกิล 1 - เป็นสกิลติดตัว; เมื่อลงสนามจะหยุดโจมตีเป็นเวลา 5 วินาที และทำให้ศัตรูที่อยู่ 4 ช่องรอบตัวติดสถานะหลับ; เมื่อสกิลจบลงจะทำดาเมจ 350% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูยืนพื้นในระยะ ใช้คอมโบกับทีมลักหลับได้ สกิล 2 - เป็นสกิลติดตัว; เมื่อลงสนามจะทำดาเมจทันที 300% เป็นเวทย์ใส่ศัตรูทุกตัวที่อยู่ช่องที่ 3 ด้านหน้าตัวเอง(ดูจากรูปด้านล่าง); ทำดาเมจอย่างต่อเนื่อง 12 วินาทีใส่ศัตรูตัวเดียวที่อยู่ในระยะเดิมนั้นเป็นเวทย์ เป็นสกิลที่มีระยะพิสดารจนใช้ยากมาก จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร สกิล 1 ทำให้ติดหลับ ต้องใช้กับทีมเฉพาะทางอย่างทีมลักหลับ สกิล 2 ระยะพิสดารมาก ใช้งานได้ลำบาก หาได้จากกาชาเท่านั้น สรุป   เป็นตัวละครที่เฉพาะทางมาก ๆ อินดี้จัด ๆ แนะนำให้ผู้เล่นทั่วไปข้ามไปได้เลย

   Firewhistle ตัวละคร Defender ระดับ 5 ดาวสาย Fortress ที่โจมตีระยะไกลได้เมื่อไม่ได้บล็อคศัตรูอยู่ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เมื่อไม่ได้บล็อคศัตรูจะโจมตีระยะไกลเป็นกายภาพ AoE  Talent - ATK +12% เมื่อไม่ได้บล็อคอยู่; DEF +12% เมื่อบล็อคศัตรู (ที่ PO5 จะเพิ่มเป็นอย่างละ 14%) สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง: สกิลใช้เองอัตโนมัติ; ที่เลเวล 7 เมื่อใช้สกิลทำให้โจมตีครั้งถัดไปทำดาเมจ 150% เป็นกายภาพ และเผาไหม้เป้าหมาย, ศัตรูที่ถูกเผาไหม้โดนดาเมจ 40% เป็นเวทย์เป็นเวลา 4 วินาที; ใช้ SP 8 สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 ทำให้การโจมตีแต่ละครั้งเกิดไฟไหม้ที่พื้นในระยะ 4 ช่องรอบจุดที่ยิงเป็นเวลา 5 วินาที ทำดาเมจ 65% เป็นเวทย์ต่อวินาที; SP ตั้งต้น 19; ใช้ SP 43; ระยะเวลาสกิล 17 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร เปิดหาได้จากกาชาเท่านั้น ระยะยิงอาจทำให้หาตำแหน่งวางลำบากเล็กน้อย ใช้ DP ลงสนามค่อนข้างสูง สรุป   เป็นตัวละครคั้งต้นสำหรับสาย Fortress หากอยากได้ตัวละครยืนล่างและโจมตีได้ไกลประมาณนึงก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่แลกมากับการต้องหาตำแหน่งยืนที่เหมาะสม

   Hibiscus the Purifier ตัวละคร Medic ระดับ 5 ดาวสาย Incantation Medic (Medic สายโจมตี) โจมตีแล้วเอาดาเมจมาฮีลให้พันธมิตร จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจเป็นเวทย์ และฮีลให้กับพันธมิตรในระยะโจมตี ด้วย 50% ของดาเมจที่ทำได้ Talent - การโจมตีทำให้ศัตรูโดนสถานะ Arts Fragility 12% (โดนเวทย์แรงขึ้น) เป้นเวลา 5 วินาที สกิล 1 (ไม่นิยม) - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +60%; SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 35; ระยะเวลาสกิล 30 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ทำให้ศัตรู 2 ตัวในระยะเดินช้าลง -35% และทำดาเมจ 140% เป้นเวทย์ต่อวินาที; SP ตั้งต้น 10; ใช้ SP 19; ระยะเวลาสกิล 8 วินาที จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร หากไม่มีศัตรูในระยะให้โจมตีก็จะฮีลให้เพื่อนไม่ได้เลย สกิล 2 มีระยะเวลาสกิลสั้นมาก หาได้จากกาชาเท่านั้น สรุป   เป็นสายเฉพาะทาง ไม่ใช่ meta ถ้าชอบสไตล์นี้ลองปั้นมาใช้งานดูได้

   Pudding ตัวละคร Caster ระดับ 4 ดาวสาย Chain Caster (ยิงชิ่งศัตรูหลายเป้าหมาย) เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับสายนี้ให้ลองเล่น สามารถแลกได้จากแต้มชมพูในร้านค้า จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ทำดาเมจเวทย์ สามารถชิ่งระหว่างศัตรูได้สูงสุด 4 เป้าหมาย, แต่ละการชิ่งจะทำดาเมจลดลง 15% ศัตรูที่ถูกโจมตีจะติด slow แป๊บนึง Talent - ATK +10% สกิล 1 (ไม่นิยม) - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ASPD +45; SP ตั้งต้น 5; ใช้ SP 37; ระยะเวลาสกิล 25 วินาที สกิล 2 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้ ATK +80%, ชิ่งได้สูงสุด 4 ครั้ง ซึ่งชิ่งกลับมาโดนเป้าหมายเดิมซ้ำได้แต่ต้องมีศัตรูให้ชิ่งอย่างน้อย 2 ตัว แลกด้วยแต้มชมพูในร้านค้าได้ ปั้น PO ง่าย จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ใช้ DP สูงในการลงสนาม สรุป   เป็นอีกตัวละครที่ขึ้นกับสไตล์การเล่นของแต่ละคน สำหรับใครที่อยากลองสาย Chain Caster ก็ลองกดมาใช้ได้ ถ้าชอบก็ปั้นต่อ

   Utage ตัวละคร Guard ระดับ 4 ดาวสาย Musha (ตีดูดเลือด แต่ไม่สามารถรับฮีลได้) สามารถยืนเลนตัวเดียวได้กับศัตรูที่ไม่ได้โจมตีหนักมากนัก จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร เด้งเลือด 70 ทุกครั้งที่โจมตีใส่ศัตรู Talent - เพิ่ม ASPD ได้สูงสุด +100 ตามปริมาณของ HP ที่สูญเสียไป (สูงสุดคือเสียเลือดไป 70%) แปลเป็นภาษาพูดคือยิ่งเลือดเหลือน้อยยิ่งตีเร็ว สกิล 1 - หลอดสกิลเด้งเอง; เป็นสกิลกดใช้; ที่เลเวล 7 เมื่อกดใช้จะหยุดโจมตี, บล็อคลดเหลือ 0, DEF +160%, และเด้งเลือด 8% ของ Max HP ทุก ๆ วินาที; SP ตั้งต้น 6; ใช้ SP 15; ระยะเวลาสกิล 8 วินาทีเป็นสกิลที่ใช้งานง่าย สามารถฟื้นฟูเลือดในเวลาที่เหมาะสม สกิล 2 - เป็นสกิลติดตัว; หลังจากลงสนามจะสูญเสียเลือดทันที 50%, ภายในระยะเวลา 15 วินาทีหลังลงสนามจะได้รับบัฟ ATK +80% และโจมตีเป็นเวทย์ เป็นสกิลที่ใช้สำหรับลงสนามมาเพื่อจัดการเป้าหมายให้ไว แล้วจึงถอดออกจากสนามไป (เล่นแบบตัวละคร Fast-redeploy) หาจาก recruit ได้ tag Survival, Guard (แต่จะออกยากหน่อยเพราะมีหลายตัวที่ใช้ tag เดียวกัน) จุดด้อย / ข้อเสียของตัวละคร ไม่สามารถรับฮีลได้ (แต่ผลแบบเด้งเลือดต่อวินาทียังใช้ได้อยู่

   Ebenholz ตัวละคร Caster ระดับ 6 ดาวสาย Mystic Caster สามารถเก็บชาร์จการโจมตีได้เมื่อไม่มีศัตรูในระยะ และยิงออกไปทีเดียวเมื่อศัตรูเข้ามาในระยะโจมตี จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร โจมตีเป็นเวทย์; หากไม่มีศัตรูในระยะจะเก็บการโจมตีเป็นชาร์จไว้แทน เก็บได้สูงสุด 3 ครั้ง และจะยิงออกไปทีเดียวทั้งหมดเมื่อมีศัตรูเข้ามาในระยะ Talent 1 - โจมตีจากการเก็บชาร์จทำดาเมจได้ 135%  120% (แต่ในเเกมจะเขียนว่า 135% คาดว่าน่าจะผิดพลาดในการแปล) ; เก็บชาร์จเพิ่มได้อีก 1 เมื่อโจมตีศัตรูที่เป็นระดับ Elite หรือบอส (ก็คือจะเก็บชาร์จได้ 4 ชาร์จ แต่ชาร์จสุดท้ายใช้ได้กับ elite หรือบอสเท่านั้น) Talent 2 - ถ้าไม่มีศัตรูตัวอื่นอยู่ใกล้เคียงเป้าหมาย จะทำดาเมจเพิ่มเติมอีก 15% สกิล 1 (ไม่นิยม) - หลอดสกิลเด้งเอง;  เป็นสกิลกดใช้; เมื่อกดใช้ระยะสกิลจะเปลี่ยนเป็นเส้นตรง, ที่เลเวล 7 จะลดดีเลย์ในการโจมตีแต่ละครั้งลงปานกลาง (ทำให้โจมตีหรือเก็บชาร์จได้ไวขึ้น), แต่ละการโจมตีจะทำดาเมจ ลดลง เหลือ 40%; SP ตั้งต้น 5; ใช้ SP 19; ระยะเวลาสกิล 5 วินาที เป็นสกิลที่มักจะใช้เพื่อเก็บชาร์จไว้รอยิงใส่เป้าหมายที่ต้องการ ใช้งานค่อนข้างยาก สกิล 2 -

  สการ์เล็ต: เงาดำพิฆาต (Scarlet: Black Shadow) ตัวละครสาย Attacker สังกัดพิลกริม ธาตุลม มีสกิล 1 ที่เปิดใช้งานเมื่อชาร์จเต็มครบจำนวนได้เรื่อย ๆ จุดเด่น / ข้อดีของตัวละคร ปืนยิงจรวด ยิงได้ทุกระยะ ธาตุลม โจมตีธรรมดา - ทำดาเมจ 57.29%ว เวลาชาร์จ 0.3 วินาที; ดาเมจชาร์จเต็ม 150%; ทำดาเมจแกน 200%; กระสุน 9 นัด; รีโหลด 2 วินาที สกิล 1 - เปิดใช้งานเมื่อโจมตีด้วยชาร์จเต็ม, เอฟเฟกต์เปลี่ยนตามจำนวนครั้งที่โจมตี, เอฟเฟกต์ของแต่ละขั้นไม่ทมับซ้อนกัน 3 ครั้ง: ส่งผลกับศัตรูที่มี DEF ต่ำสุด 1 ตัว - สร้างดาเมจเพิ่มเติมสูงสุด 250.47% ของ ATK ขั้นสุดท้าย 6 ครั้่ง: ส่งผลกับศัตรูในระยะโจมตี - สร้างดาเมจกระจายสูงสุด 500% ของ ATK ขั้นสุดท้าย 9 ครั้ง: ส่งผลกับศัตรูทั้งหมด - สร้างดาเมจกระจาย 750.47% ของ ATK ขั้นสุดท้าย สกิล 2 - เปิดใช้งานเมื่อเข้าสู่เบิร์สเต็ม(ไม่ต้องกดเบิร์สเองก็ได้) ส่งผลกับตนเอง ความจจุกระสุนสูงสุดเพิ่มขึ้นสูงสุด 60% เป็นเวลา 10 วินาที รีโหลดกระสุน 100% ทันที (ทำให้กระสุนเต็มโดยไม่ต้องรอรีโหลด) เบิร์สสกิล - เป็นเบิร์สลำดับ 3; CD 40 วินาที; ส่งผลกับตนเองเป็นเวลา 10 วินาที เปลี่ยนจำนวนครั้งที่